ราคาทองคําวันนี้

มีแรงขายกลับออกมามาก หลังจากราคาทองไม่สามารถยืนเหนือแนวรับบริเวณ 1,600 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้ ในการซื้อขายช่วงเย็น ก่อนที่ในช่วงค่ำแรงกดดันจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ระบุถึงภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เริ่มฟื้นตัว จนอาจมีการปรับรูปแบบการดำเนินนโยบายการเงิน ซึ่งส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น กดดันราคาทองคำปรับตัวลงแรงต่อเนื่องในการซื้อขายช่วงค่ำที่ผ่านมา

โดยราคาทองคำปิดตลาดเมื่อคืนนี้ที่ 1,562.26 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปรับตัวลดลง 41.95 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่บริเวณ 1,558 และ 1,609 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ส่วนราคาซื้อขายทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวานนี้ ขายออกที่บาทละ 22,700 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 22,600 บาท กองทุน SPDR รายงานวานนี้ว่ามีการปรับลดปริมาณการถือครองทองคำลง 20.77 ตัน ส่งผลให้ปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำรวม 1,299.19 ตัน

รายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการประชุมเดือนมกราคม ระบุถึงภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่เริ่มฟื้นตัวขึ้น และอาจมีการปรับรูปแบบการดำเนินนโยบาย ตลาดจึงประเมินว่าการผ่อนคลายทางการเงินอาจยุติลงเร็วขึ้น กดดันให้ราคาทองคำปรับตัวลงแรงในการซื้อขายช่วงค่ำที่ผ่านมา

โดยการประชุมครั้งถัดไปของธนาคารกลางสหรัฐฯ จะมีขึ้นปลายเดือนหน้า และยังเป็นประเด็นที่ตลาดให้ความสนใจ และนอกจากประเด็นดังกล่าวแล้ว ปัจจัยทางเทคนิคก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กดดันให้มีแรงขายออกมามาก โดยมีสัญญาณขายเกิดขึ้นหลังจากราคาทองไม่สามารถยืนเหนือแนวรับบริเวณ 1,600 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่จะมีการดีดตัวในช่วงสั้นๆ จากแนวรับบริเวณ 1,590 และ 1,580 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ท้ายที่สุดแล้วแรงขายที่มีออกมามาก กดดันให้ราคาทองปรับตัวลงทำจุดต่ำสุดในรอบ 7 เดือน และยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลงต่อ การถือครองทองแท่งยังแนะนำให้ใช้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าบริหารความเสี่ยง

ส่วนการเคลื่อนไหวในวันนี้คาดว่าอาจมีการดีดตัวทางเทคนิคในระยะสั้นเกิดขึ้น แต่ภาพรวมยังมีแนวโน้มที่ราคาจะปรับตัวลงต่อไป แนวรับของราคาทองสำหรับเก็งกำไรการดีดตัวในช่วงสั้นๆ อยู่ที่บริเวณ 1,555-1,560 และ 1,520-1,530 ดอลลาร์ ตามลำดับ หากดีดตัวขึ้นในระหว่างวัน คาดว่าที่แนวต้านบริเวณ 1,580-1,585 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จะยังมีแรงขายกดดันให้ราคาปรับตัวลงต่อไป

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์