ฮั่วเซ่งเฮงเผย SPDR ลดการถือทองลง 3.02 ตัน
โดยเงินดอลลาร์ดีดตัวแข็งค่าขึ้นสวนทางกับเงินยูโร ภายหลังมีรายงานภาวะเศรษฐกิจของประเทศสมาชิกในกลุ่มยุโรปที่กลับชะลอตัวลง กดดันให้ราคาทองคำเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมาปรับตัวลง และไม่สามารถยืนเหนือแนวรับในทางเทคนิค กดดันให้ราคาโลหะทั้ง 2 ชนิด ยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลงต่อ
โดยราคาทองคำปิดตลาดเมื่อคืนนี้ที่ 1,633.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปรับตัวลดลง 8.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่บริเวณ 1,632 และ 1,649 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ส่วนราคาซื้อขายทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวานนี้ขายออกที่บาทละ 23,300 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 23,200 บาท กองทุน SPDR รายงานวานนี้ว่า ได้มีการลดปริมาณการถือทองคำลง 3.02 ตัน ส่งผลให้ปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำรวม 1,322.97 ตัน
สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรปรายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศของประเทศที่ใช้เงินยูโรหดตัวลง 0.6% ในไตรมาส 4 ปี ก่อน หลังปรับตัวลง 0.1% ในไตรมาส 3 และเมื่อเทียบเป็นรายปี พบว่าเศรษฐกิจยูโรโซนหดตัวลง 0.9% ซึ่งมีสาเหตุจากประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ 3 อันดับแรก คือเยอรมนี ฝรั่งเศส และอิตาลี มีเศรษฐกิจที่หดตัวลง
โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติของฝรั่งเศสเปิดเผยว่า เศรษฐกิจฝรั่งเศสหดตัวลง 0.3% ในช่วงไตรมาส 4 ปี 2555 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และปรับตัวลง 0.3% เช่นกันเมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2554 ส่วนสำนักงานสถิติแห่งชาติของเยอรมนี เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของเยอรมนีในช่วงไตรมาส 4 ปี 2555 หดตัวลง 0.6% จากไตรมาส 3 ปีเดียวกัน หลังจากที่มีการขยายตัว 3 ไตรมาสติดต่อกัน
และสำนักงานสถิติแห่งชาติของอิตาลีเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศเบื้องต้นของอิตาลีในช่วงไตรมาส 4 ปี 2555 หดตัวลง 0.9% จากไตรมาสก่อนหน้า และดิ่งลง 2.7% จึงเป็นปัจจัยลบกดดันราคาทองผ่านการอ่อนค่าของเงินยูโร
ส่วนในช่วงระหว่างวันนี้และพรุ่งนี้ จะมีการประชุมของกลุ่มรัฐมนตรีคลังกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วและกำลังพัฒนา 19 ประเทศ รวมทั้งสหภาพยุโรป หรือ G20 โดยคาดว่าจะมีการหารือเกี่ยวกับประเด็นเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ต่างใช้นโยบายกดดันให้ค่าเงินอ่อนค่าจนอาจส่งผลต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ซึ่งจะส่งผลต่อราคาทองผ่านการเคลื่อนไหวของค่าเงินสกุลต่างๆ
ส่วนภาพเทคนิคของราคาทองหลังจากไม่สามารถยืนเหนือแนวรับบริเวณ 1,640 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้ จึงเกิดเป็นสัญญาณขายกดดันให้ราคาทองคำ ยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลงต่อ โดยมีแนวรับที่คาดว่าจะมีการดีดตัวในทางเทคนิคอยู่ที่บริเวณ 1,620-1,625 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และมีแนวต้านของวันอยู่ที่บริเวณ 1,642 และ 1,650 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ตามลำดับ การเก็งกำไรผ่านทองคำแท่งควรใช้สถานะขายของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าบริหารความเสี่ยงในช่วงที่ราคาทองมีแนวโน้มอ่อนตัว
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ดอลลาร์แข็งค่า-พันธบัตรสหรัฐพุ่ง ฉุดทองคำโลกทองไทยร่วงลงหนัก
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 43,600.00 | 43,700.00 |
ทองรูปพรรณ | 42,811.84 | 44,200.00 |
วันนี้ 600 | 50 | |
21 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 15:38 น. | (ครั้งที่ 7) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ