ฮั่วเซ่งเฮง คาดดอลลาร์แข็งกดทองร่วง
โดยราคาทองคำปรับตัวขึ้นเข้าใกล้แนวต้านจิตวิทยาบริเวณ 1,600 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ก่อนที่จะถูกเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นตอบรับรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ กดดันให้ราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยปรับตัวลง เงินทุนยังคงไหลเข้าสู่ตลาดสินทรัพย์เสี่ยง เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของหลายประเทศกำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัว โดยราคาทองคำปิดตลาดเมื่อคืนนี้(พุธที่ 13 มีนาคม 2556)ที่ 1,588.50 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ปรับตัวลดลง 4.40 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่บริเวณ 1,585 และ 1,599 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ตามลำดับ
ส่วนราคาซื้อขายทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวานนี้(พุธที่ 13 มีนาคม 2556)ขายออกที่บาทละ 22,350 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 22,250 บาท กองทุน SPDR ไม่มีรายงานการเปลี่ยนแปลงปริมาณการถือครองทองคำ โดยปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำรวม 1,236.31 ตัน
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานในช่วงค่ำที่ผ่านมาว่ายอดค้าปลีกเดือนกุมภาพันธ์ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกินคาด 1.1% และทำสถิติขยายตัวสูงสุดในรอบ 5 เดือน กดดันราคาทองคำผ่านการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ภายหลังนักลงทุนประเมินว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่มีสัญญาณฟื้นตัว การผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ จึงอาจใช้ระยะเวลาสั้นลง และการซื้อขายส่วนใหญ่ยังเป็นการเก็งกำไรในตลาดสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งตลาดหุ้นสหรัฐฯ และหลายประเทศยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นต่อ โดยเมื่อคืนที่ผ่านมาดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ของสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 9 และเดินหน้าทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อไป
การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในฐานะการเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยจึงยังมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวในกรอบแคบ และอาจมีแรงขายกลับออกมาเป็นระยะๆ แต่ด้วยราคาที่ต่ำลงมามากพอสมควร จึงมีแรงซื้อกลับเข้ามาในช่วงที่ราคาอ่อนตัวลง จนภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองในระยะนี้เป็นการแกว่งตัวขึ้นลงในกรอบแคบ
ส่วนประเด็นเรื่องการแก้ไขปัญหาทางการคลังของสหรัฐฯ ยังเป็นประเด็นที่นักลงทุนให้ความสนใจ โดยคาดว่าในสัปดาห์นี้วุฒิสภาสหรัฐฯ จะมีมติให้ความเห็นชอบกฎหมายที่จะทำให้หน่วยงานราชการบางแห่งไม่ต้องปิดทำการในช่วงปลายเดือนนี้ ไปจนถึงช่วงสิ้นปีงบประมาณหรือราวจ้นเดือนตุลาคม แต่หากไม่สามารถตกลงกันได้ ก็อาจเป็นประเด็นบวกที่ทำให้มีแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยกลับเข้ามา ส่วนการเคลื่อนไหวในทางเทคนิคของหลังจากเมื่อคืนนี้มีแรงขายกลับออกมาจากแนวต้านบริเวณ 1,600 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ แต่ยังสามารถประคองตัวเหนือแนวรับบริเวณ 1,580 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ได้
จึงยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นได้ต่อไป โดยคาดว่าราคาทองจะเคลื่อนไหวอยู่ระหว่างแนวรับและแนวต้านบริเวณ 1,580-1,600 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ หากปรับตัวลงไปต่ำกว่าแนวรับหรือดีดตัวผ่านแนวต้าน คาดว่าจะมีแรงซื้อขายเข้ามามากจนราคาเคลื่อนไหวในกรอบที่กว้างมากขึ้น.
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ดอลลาร์แข็งค่า-พันธบัตรสหรัฐพุ่ง ฉุดทองคำโลกทองไทยร่วงลงหนัก
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 43,600.00 | 43,700.00 |
ทองรูปพรรณ | 42,811.84 | 44,200.00 |
วันนี้ 600 | 50 | |
21 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 15:38 น. | (ครั้งที่ 7) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ