ฮั่วเซ่งเฮง เผยคืนนี้ตลาดสหรัฐปิดทำการวัน Good Friday
โดยราคาทองคำปรับตัวลดลงในการซื้อขายช่วงค่ำ หลังจากในระหว่างวันเคลื่อนไหวในกรอบแคบ แต่โดยรวมแล้วยังคงเป็นการแกว่งตัวในกรอบแคบตามแนวรับและแนวต้านทางเทคนิค ซึ่งคาดว่าเป็นเพราะในสัปดาห์นี้ไม่มีปัจจัยใหม่ๆ ทั้งในด้านบวกและลบที่มีผลต่อราคาทองอย่างมีนัยสำคัญ จึงทำให้การเคลื่อนไหวโดยรวมของราคาทองในสัปดาห์นี้ เคลื่อนไหวค่อนข้างทรงตัว
โดยราคาทองคำปิดตลาดเมื่อคืนนี้(พฤหัสบดีที่ 28 มีนาคม 2556)ที่ 1,596.20 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ปรับตัวลดลง 8.60 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่บริเวณ 1,593 และ 1,607 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ตามลำดับ ส่วนราคาซื้อขายทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวานนี้(พฤหัสบดีที่ 28 มีนาคม 2556) ขายออกที่บาทละ 22,250 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 22,150 บาท และ ทองรูปพรรณ 96.5% ขายออกที่บาทละ 22,650 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 21,830.40 บาท กองทุน SPDR ไม่มีรายงานการเปลี่ยนแปลงปริมาณการถือทอง โดยปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำรวม 1,221.26 ตัน
การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในวันนี้ ยังมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวในกรอบแคบต่อเนื่องจากต้นสัปดาห์ ทั้งจากการขาดปัจจัยบวกและลบที่มีนัยสำคัญต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองรวมทั้งตราสารทางการเงินอื่นๆ ประกอบกับในคืนวันนี้ ตลาดการเงินของสหรัฐฯ จะปิดทำการเนื่องในวัน Good Friday ก่อนที่จะเปิดทำการอีกครั้งในวันจันทร์ และตลาดการเงินบางแห่งในยุโรป ก็จะปิดทำการในคืนวันนี้และต่อเนื่องไปจนถึงวันจันทร์ ทำให้การเคลื่อนไหวโดยรวมของราคาทองคำในวันนี้ คาดว่าจะเคลื่อนไหวทรงตัวต่อไป
ส่วนในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมเพื่อกำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป ธนาคารกลางญี่ปุ่น รวมทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งในส่วนของธนาคารกลางยุโรปและญี่ปุ่นนั้น อาจมีการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม และจะเป็นปัจจัยบวกต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ ส่วนการประชุมของธนาคารแห่งประเทศไทยนั้น ด้วยเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมาก อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทยปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง ซึ่งจะส่งผลให้เงินบาทอ่อนค่าลงในช่วงสั้นๆ และเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองในประเทศ
ดังนั้น ในสัปดาห์หน้าหากตลาดหยิบประเด็นเหล่านี้ขึ้นมาเก็งกำไร ก็จะเป็นปัจจัยที่ทำให้ราคาทองดีดตัวขึ้นได้ต่อ ส่วนภาพการเคลื่อนไหวของราคาทองในทางเทคนิคหลังจากเมื่อวานนี้ราคาทองอ่อนตัวลงเข้าใกล้แนวรับบริเวณ 1,590 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ และปิดตลาดทรงตัวเหนือแนวรับดังกล่าวได้ ทำให้ภาพการเคลื่อนไหวในระยะสั้นยังไม่แตกต่างไปจากเดิม
โดยคาดว่าราคาทองจะแกว่งตัวในกรอบแนวรับแนวต้านบริเวณ 1,590-1,620 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ต่อไป และด้วยสัญญาณซื้อที่เกิดขึ้นในภาพรายสัปดาห์ หากราคาไม่สามารถยืนเหนือแนวรับบริเวณ 1,590 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ได้ คาดว่าปริมาณการอ่อนตัวลงคงมีไม่มาก และราคาจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นได้ต่อ และในกรณีที่ราคาทองดีดตัวผ่านแนวต้านบริเวณ 1,620 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ขึ้นไปได้ ก็จะเป็นสัญญาณซื้อเก็งกำไรรอบใหม่ โดยมีแนวต้านถัดไปอยู่ที่บริเวณ 1,635-1,640 และ 1,650 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ตามลำดับ.
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,050.00 | 44,150.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,251.48 | 44,650.00 |
วันนี้ 450 | -50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 15:13 น. | (ครั้งที่ 12) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ