ฮั่วเซ่งเฮง เผย SPDR ถือทองลดลง 2.71 ตัน
โดยราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 2 โดยราคาปรับตัวขึ้นค่อนข้างแรงในการซื้อขายช่วงค่ำ ซึ่งมีแรงซื้อเข้ามามากหลังจากราคาทองดีดตัวผ่านแนวต้านทางเทคนิค ประกอบกับมีรายงานข่าวเกี่ยวกับความต้องการซื้อทองคำจริงจากเอเชีย ที่มีเข้ามามาก จนทำให้นักลงทุนกลับเข้าซื้อทองคำเพิ่มมากขึ้น ก่อนที่จะปิดตลาดในการซื้อขายช่วงค่ำที่ผ่านมา
โดยราคาทองคำปิดตลาดเมื่อคืนนี้(พฤหัสบดีที่ 25 เมษายน 2556)ที่ 1,465.95 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 35.55 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่บริเวณ 1,426 และ 1,468 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ส่วนราคาซื้อขายทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% วานนี้(พฤหัสบดีที่ 25 เมษายน 2556) ขายออกที่บาทละ 19,950 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 19,850 บาท ทองรูปพรรณชนิด 96.5% ขายออกที่บาทละ 20,350 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 19,556.40 บาท กองทุน SPDR รายงานว่ามีการลดการถือครองทองคำลง 2.71 ตัน ส่งผลให้ปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำรวม 1,090.27 ตัน
ราคาทองคำดีดตัวขึ้นตอบรับปัจจัยบวก ทั้งจากรายงานข่าวเกี่ยวกับการซื้อทองคำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของธนาคารกลางหลายแห่ง รวมทั้งราคาทองคำที่ปรับตัวลดลงส่งผลให้ผู้บริโภคในอินเดียและจีนเข้าซื้อทองคำแท่งและทองรูปพรรณเป็นจำนวนมาก
โดยข้อมูลจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศระบุว่า ธนาคารกลางหลายแห่งรวมถึงธนาคารกลางรัสเซีย ตุรกี และคาซัคสถาน ยังคงเดินหน้าซื้อทองคำเพื่อเก็บไว้ในทุนสำรอง ซึ่งช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับรายงานข่าวในช่วง 2 สัปดาห์ก่อน เกี่ยวกับการขายทองคำของประเทศสมาชิกในยูโรโซน จึงทำให้ราคาทองคำในการซื้อขายช่วงค่ำที่ผ่านมา ดีดตัวขึ้นค่อนข้างแรง ซึ่งส่วนหนึ่งคาดว่าเป็นแรงซื้อจากปัจจัยทางเทคนิค ซึ่งมีสัญญาณซื้อเกิดขึ้นหลังจากราคาทองคำดีดตัวผ่านแนวต้านบริเวณ 1,445 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และมีแนวโน้มว่าราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นสู่แนวต้านบริเวณ 1,480 และ 1,490 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้ต่อไป
ดังนั้นการเก็งกำไรในระยะสั้น หากราคาทองอ่อนตัวลงเข้าใกล้แนวรับบริเวณ 1,445-1,450 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สามารถกลับเข้าซื้อเก็งกำไรการฟื้นตัวกลับ แต่ควรตั้งจุดขายตัดขาดทุนหรือใช้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าป้องกันความเสี่ยงหากราคาทองอ่อนตัวลงไปต่ำกว่าแนวรับบริเวณดังกล่าว
ประเด็นที่นักลงทุนให้ความสนใจในวันนี้อยู่ที่ การรายงานตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศไตรมาสแรกของสหรัฐฯ ซึ่งในครั้งนี้ มีการปรับวิธีการคำนวณใหม่และมีแนวโน้มที่ตัวเลขดังกล่าว จะออกมาค่อนข้างดี โดยตลาดประเมินว่าจะขยายตัวขึ้น 3.0% หากรายงานออกมาดีกว่าคาด ก็จะเป็นปัจจัยลบกดดันให้ราคาทองอ่อนตัวลง ส่วนการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่นในวันนี้ หลังจากการประชุมครั้งก่อนได้ประกาศเพิ่มปริมาณเงินเข้าสู่ระบบราว 7 ล้านล้านเยนต่อเดือน ในการประชุมครั้งนี้ คงไม่มีการประกาศเพิ่มปริมาณเงินจากการประชุมครั้งก่อน แต่อาจมีการระบุถึงเป้าหมายเรื่องเงินเฟ้อที่ชัดเจน ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันให้เงินเยนอ่อนค่าลง
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,100.00 | 44,200.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,312.12 | 44,700.00 |
วันนี้ 500 | -50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 10:30 น. | (ครั้งที่ 7) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ