เช้าจันทร์ทองทรงตัว หลังร่วงแรงวันศุกร์ ในประเทศทองลงไม่มาก
โดยราคาทองคำโลกเช้าวันจันทร์เคลื่อนไหวระดับเดียวกันกับช่วงวันศุกร์สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากราคาร่วงลงอย่างหนักกว่า 23 ดอลลาร์ เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนก.ค. ของสหรัฐที่พบว่าข้อมูลการจ้างงานออกมาแข็งแกร่งเกินคาด
ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์ที่ผ่านมาส่งผลกดดันให้ราคาทองคำปรับลงแรงหลังจาก ตัวเลขการจ้างงานดังกล่าวเพิ่มขึ้นสูงถึง 255,000 ตำแหน่ง โดยมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 180,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับเดิม 4.9% และนอกจากนี้ยังได้ปรับเพิ่มตัวเลขการจ้างงานในเดือนพ.ค. และเดือนมิ.ย. ขึ้นอีกจากรายงานเมื่อครั้งก่อนหน้า โดยข้อมูลการจ้างงานที่สูงเกินคาดสะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง
ส่วนภาพรวมราคาทองในสัปดาห์ที่ผ่านมาพบการเคลื่อนไหวผันผวน โดยในวันพฤหัสหลังจากการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ(บีโออี) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจาก 0.50% สู่ระดับ 0.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และเพิ่มวงเงินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) เพื่อบรรเทาผลกระทบจาก Brexit ซึ่งประเด็นดังกล่าวนำมาเป็นแรงผลักดันให้ทองคำราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ สัปดาห์ที่ผ่านมา กองทุน SPDR Gold Trust กองทุน ETF ทองคำรายใหญ่ของโลก ยังทำการเข้าซื้อทองคำต่อเนื่อง ปริมาณสูงถึง 22.3 ตัน
ขณะที่รายงานเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้ จากสหรัฐไม่ค่อยมีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ แต่จะมีรายงานข้อมูลเศรษฐกิจประจำเดือน อย่าง ยอดค้าปลีก และ ดัชนีราคาผู้ผลิต ทั้งสองรายงานเป็นของเดือนกรกฎาคม รวมถึง ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนสิงหาคม ส่วนในฝั่งเอเชียอย่างจีนในสัปดาห์นี้มีประเด็นเศรษฐกิจที่สำคัญมากกว่าที่คาดกว่าจะส่งผลต่อแนวโน้มราคาทองคำ ซึ่งหากข้อมูลเศรษฐกิจออกมาไม่ดีอาจจะทำให้มีแรงเทขายหุ้นออกมา และเม็ดเงินบางส่วนไหลเข้าทองคำ
ทางด้านราคาทองในประเทศ เปิดตลาดทองวันจันทร์ราคาทองลดลงตามทิศทางทองคำตลาดโลกอีก 50 บาท ต่อเนื่องจากวันเสาร์ที่ราคาปรับลดลงไปแล้ว 250 บาท ขณะที่ปัจจัยส่งผลต่อทองในประเทศอย่างค่าเงินบาทเช้านี้พบการอ่อนค่าเล็กน้อยจากเมื่อวันศุกร์หลังจากเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นจากประเด็นตัวเลขจ้างงานสหรัฐดีเกินคาด ส่งผลบวกต่อทองในประเทศเล็กน้อย อย่างไรก็ดี แนวโน้มวันนี้เงินบาทอาจจะเคลื่อนไหวไม่มากนัก โดยนักบริหารการเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 34.95 – 35.10 บาทต่อดอลลาร์
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำคาดเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway down โดยมีแนวรับที่ 1,330 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ถ้าหลุดแนวรับดังกล่าวคาดจะมีแนวรับถัดไปที่ 1,315 และ 1,305 ดอลลาร์ต่อออนซ์ตามลำดับ ขณะที่มีแนวต้านที่ 1,340 และ 1,350 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรงทะลุระดับ 2,700$
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 550 | 50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 17:09 น. | (ครั้งที่ 14) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวหุ้น, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง