เช้านี้ทองฟื้นเล็กน้อยแต่ปัจจัยเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยยังคงกดดัน
โดยราคาทองคำเช้าวันจันทร์ต้นสัปดาห์ฟื้นตัวขึ้นมาเล็กน้อย หลังจากช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาปรับลดลงปริมาณมากแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ ที่ระดับ 1,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และเป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 3 แม้ว่าช่วงต้นสัปดาห์ราคาจะปรับตัวสูงขึ้นก็ตาม
ภาพรวมราคาทองคำในสัปดาห์ที่ผ่านมามีการเคลื่อนไหวผันผวนขึ้นลง โดยต้นสัปดาห์ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับ 1,288 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหลังจากนั้นราคาเริ่มปรับตัวลดลงต่อเนื่องสู่ระดับ 1,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยเฉพาะวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ราคาร่วงลงรวมกว่า 20 ดอลลาร์ และตลอดสัปดาห์ราคาปรับลดลงรวม 1.56% แตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์นับตั้งแต่วันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา
โดยปัจจัยลบกดดันให้ราคาปรับลดลงก็เนื่องมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไปเดือนมิถุนายนนี้ ภายหลังการเปิดเผยรายงานการประชุมครั้งล่าสุดของเฟดเมื่อวันนี้ 26-27 เมษายนที่ผ่านมา บ่งชี้ว่าเฟดมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. ถ้าหากตัวเลขเศรษฐกิจบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐเติบโตอย่างแข็งแกร่งในไตรมาส 2 อัตราเงินเฟ้อปรับขึ้น ซึ่งประเด็นดังกล่าวส่งผลทำให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วซึ่งเป็นเหตุให้ทองคำถูกเทขาย
ส่วนรายงานเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ จะมีการเปิดเผยตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/2559 ซึ่งเป็นประมาณการครั้งที่ 2 โดยตลาดคาดการณ์ว่าจะขยายตัวขึ้นจากประมาณการครั้งแรก นอกจากนี้ยังมีรายงานตัวเลข ดัชนี PMI ภาคการผลิต ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพฤษภาคม และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนเมษายน ตลาดคาดการณ์ว่าตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐโดยรวมจะออกมาดีซึ่งจะส่งผลต่อเงินดอลลาร์ให้แข็งค่าขึ้นและกดดันมายังราคาทองคำให้ปรับตัวลดลง
ทางด้านราคาทองในประเทศ เปิดตลาดเช้าวันจันทร์ต้นสัปดาห์ราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากเมื่อวันเสาร์ที่ราคาปรับลดลง 50 บาท โดยมีปัจจัยเงินบาทแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยทิศทางของเงินบาทรอปัจจัยใหม่ชี้นำการเคลื่อนไหว โดยราคาทอง 1 สลึงเช้าวันนี้อยู่ที่ราคา 5,300 บาท(ไม่รวมค่ากำเหน็จ)
บริษัท ฮั่่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำคาดยังมีแนวโน้มอ่อนตัวลงได้ต่อ โดยมีแนวรับระหว่างวันที่ 1,244 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ถ้าหลุดแนวรับดังกล่าวจะมีแนวรับถัดไปที่ 1,237 และ 1,230 ดอลลาร์ต่อออนซ์ตามลำดับ ขณะที่มีแนวต้านระยะสั้นที่ 1,260 และ 1,270 ดอลลาร์ต่อออนซ์ตามลำดับ
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 550 | 50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 17:09 น. | (ครั้งที่ 14) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง