แนวโน้มทองคาดเคลื่อนไหวในกรอบ ในประเทศบาทยังแข็งทองลงต่อ
โดยราคาทองวันนี้ยังปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหัฐที่ออกมาแข็งแกร่งเกินคาด ส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมถึงการเริ่มขายทองของกองทุน SPDR เป็นอีกหนึ่งปัจจัยกดดัน
ส่วนภาพรวมราคาทองสัปดาห์ที่ผ่านมามีการเคลื่อนไหวในกรอบ 1,208-1,244 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากคำแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่อย่างไรก็ตาม ทองคำกลับมาได้รับปัจจัยลบกดดันให้ราคาปรับลดลงปริมาณมาก จากรายงานการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐประจำเดือนมีนาคมที่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ นอกจากนี้ตลาดทองคำยังได้รับปัจจัยลบจากกองทุน SPDR Gold Trust กองทุนทองคำรายใหญ่ของโลก เริ่มขายทองคำในสัปดาห์ที่ผ่านมา 5.6 ตัน หลังจากซื้อทองติดต่อกันมา 12 สัปดาห์
ส่วนรายงานเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ จะมีการรายงานการประชุมเฟด (FOMC)ในคืนวันพุธซึ่งเป็นการประชุมเฟดครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 15-16 มีนาคมที่ผ่านมา โดยเฟดมีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่เดิม แต่การเปิดเผยรายงานดังกล่าวนี้ จะทำให้ทราบรายละเอียดและมุมมองของสมาชิกคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด(FOMC) ซึ่งในกรณีที่โดยส่วนใหญ่มีความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐอาจจะได้รับแรงกดดันในทางลบจากผลกระทบในวงกว้างที่เกิดจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจโลก และจะทำให้ตลาดปรับมุมมองว่าเฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนเมษายน ที่จะช่วยหนุนราคาทองได้ นอกจากนี้ติดตามคำแถลงของประธานเฟดในคืนวันศุกร์
ทางด้านราคาทองในประเทศ เมื่อวันเสาร์ราคาทองปรับลดลง 100 บาท ต่อเนื่องเปิดตลาดเช้าวันจันทร์ราคาลดลงอีก 100 บาท โดยเป็นผลมาจากการปรับลดลงของราคาทองคำตลาดโลกหลังการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐที่ออกมาแข็งแกร่งเกินคาด โดยมีเงินบาทที่ยังอยู่ในระดับแข็งค่าเป็นอีกแรงกดดันต่อทองในประเทศ ซึ่งแนวโน้มค่าเงินบาทยังมีทิศทางแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า หลังจากที่ราคาทองคำปรับลงแรงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แต่ไม่ได้ทำจุดต่ำสุดใหม่ ทำให้แนวโน้มราคาทองคำทางด้านเทคนิคคาดจะเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway หรือแกว่งตัวในกรอบ โดยมีแนวรับสำคัญระยะสั้นที่ 1,208 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ถ้าหลุดแนวรับดังกล่าวจะมีแนวรับถัดไปที่ 1,200 และ 1,190 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่มีแนวต้านระยะสั้นที่ 1,230 และ 1,240 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 550 | 50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 17:09 น. | (ครั้งที่ 14) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง