แนวโน้มทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ในประเทศบาทแข็งขึ้นน้อย
โดยราคาทองคำยังปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยมีแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ยังมีแรงหนุนตลาดทองคำจากแรงซื้อจากเอเชียดดยเฉพาะจีน ส่วนในประเทศเปิดตลาดเช้าวันจันทร์สัปดาห์ที่ 2 ของปี เงินบาทยังแข็งค่าส่งผลราคาปรับขึ้นได้เพียง 50 บาท
สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 2 ต่อจากสัปดาห์สุดท้ายของปีที่ผ่าน โดยสามารถขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน บริเวณ 1,185 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากปัจจัยหนุนการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงต่อเนื่อง หลังจากสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าแตะระดับสูงสุดในรอบ 14 ปี นอกจากนี้มีรายงานว่าตลาดทองคำยังได้รับแรงหนุนซื้อทองคำจริงจากฝั่งเอเชียโดยเฉพาะจีน เนื่องจากใกล้เข้าสู่ช่วงเทศกาลตรุษจีน
อย่างไรก็ดีตลาดทองคำยังมีปัจจัยลบกดดัน จากการที่กองทุน SPDR Gold Trust กองทุน ETF ทองคำรายใหญ่ของโลกได้เทขายทองคำต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 12 โดยล่าสุดสัปดาห์ที่ผ่านมากองทุน SPDR เทขายทองคำทั้งสิ้นรวม 8.6 ตัน และสรุปรวม 12 สัปดาห์กองทุน SPDR เทขายทองคำทั้งสิ้น 136 ตัน
ส่วนประเด็นเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ นักลงทุนให้ความสำคัญติดตามการแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก และสาขาฟิลาเดลเฟีย เกี่ยวกับแนวโน้มการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐในปีนี้ อย่างไรก็ดีนักลงทุนยังให้น้ำหนักเกี่ยวกับนโยบายดอกเบี้ยของเฟดอยู่ที่ การใช้นโยบายการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะเข้ารับตำแหน่งแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 มกราคมนี้ แม้ว่าการประชุมเฟดครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 13-14 ธ.ค.ที่ผ่านมาเฟดได้ส่งสัญญาณจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ 3 ครั้ง
ส่วนรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐที่จะประกาศในสัปดาห์นี้ ประกอบด้วย ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนธ.ค. ยอดค้าปลีกเดือนธ.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค.ของมหาวิทยาลัยมิชิแกน
ทางด้านราคาทองในประเทศ เปิดตลาดเช้าวันจันทร์ราคาปรับขึ้น 50 บาทหลังวันเสาร์ประกาศราคาลดลง 50 บาท ทั้งนี้ทองคำในประเทศขยับขึ้นได้ไม่มากนัก เนื่องจากยังคงได้รับแรงกดดันจากาแข็งค่าของเงินบาท
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำคาดเริ่มแกว่งตัวในกรอบแคบ หลังจากปรับขึ้นติดต่อกันหลายวัน โดยมีแนวต้านที่ 1,180 และ 1,185 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ส่วนแนวรับระหว่างวันอยู่ที่ระดับ 1,170 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ถ้าหลุดแนวรับดังกล่าวจะมีแนวรับถัดไปที่ 1,160 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 550 | 50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 17:09 น. | (ครั้งที่ 14) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง