แนวโน้มทองยังถูกดดันจากดอลลาร์แข็ง ในประเทศสัปดาห์นี้ลง350
โดยราคาทองคำ เมื่อวานที่ผ่านมาแทบไม่มีการเคลื่อนไหวเนื่องจากตลาดทองคำที่สำคัญๆ ส่วนใหญ่ทั้งตลาดทองคำนิวยอร์ก ลอนดอน รวมถึงตลาดเอเชียอย่างฮ่องกง ปิดทำการเนื่องในวัน Good Friday ขณะที่ราคาทองคำยังคงได้รับปัจจัยลบกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
ราคาทองยังคงได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่มีความเห็นของเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ส่งสัญญานว่าเฟดพร้อมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ โดยล่าสุด นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟด สาขาเซนต์ หลุยส์ กล่าวว่า เฟดอาจจะใกล้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหม่แล้ว หลังจากที่ได้คงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งล่าสุด ขณะที่ทำการปรับลดคาดการณ์ตัวเลขทางเศรษฐกิจเล็กน้อย
โดย นายบูลลาร์ด ยังกล่าวว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐจะส่งผลให้เฟดพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนเมษายนนี้ ซึ่งคำกล่าวของประธานเฟดสาขาเซนต์ หลุยส์ สะท้อนคำพูดของนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟด สาขาซานฟรานซิสโก และนายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ประธานเฟด สาขาแอตแลนต้า ซึ่งส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้าเช่นกัน
ด้านราคาทองคำในประเทศ เมื่อวานนี้พบการประกาศราคาเพียงเปิดตลาดเพียงครั้งเดียวโดยตลอดทั้งวันไม่มีการเปลี่ยนแปลงของราคา ซึ่งเป็นราคาปิดตลาดของวันพฤหัสบดี ส่วนภาพรวมราคาในสัปดาห์นี้พบราคาปรับลดลง 350 บาทจากราคาสัปดาห์ก่อน โดยช่วงปลายสัปดาห์มีเงินบาทกลับมาอ่อนค่าช่วยสกัดการลดลงของทองในประเทศได้ ส่วนแนวโน้มเงินบาทในสัปดาห์หน้ายังมีแนวโน้มอ่อนค่าต่อ ขณะที่เปิดตลาดราคาทองวันนี้(เสาร์26) ราคายังคงไม่เปลี่ยแปลงตั้งแต่ปิดตลาดวันพฤหัสบดี และเป็นราคาซื้อขายตลอดวันศุกร์ และจะต่อเนื่องไปจนถึงวันจันทร์หน้า
แนวโน้มราคาทองคำในทางเทคนิค บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า คาดว่าแนวโน้มราคาทองคำในระยะสั้นจะแกว่งตัวในกรอบ 1,195-1,240 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนวรับระยะสั้นที่ 1,200-1,195 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนวต้านระยะสั้นที่ 1,225-1,240 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านกลุ่มบริษัท วายแอลจี(YLF) มองว่า หากราคาทองปรับตัวลดลงและไม่หลุดบริเวณแนวรับทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ระดับ 1,211 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งหากหลุดแนวรับดังกล่าว ราคามีแนวรับถัดไปอยู่ที่บริเวณ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยคาดว่าราคาทองคำยังมีโอกาสทดสอบแนวต้านแรกที่บริเวณ 1,222 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และมีแนวต้านถัดไปที่ระดับ 1,230 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 550 | 50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 17:09 น. | (ครั้งที่ 14) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง