แนวโน้มราคาทองคำ ยังปรับขึ้น ในประเทศบาทอ่อนต่อเนื่อง หนุนทองขึ้นได้อีก
โดยภาพการเคลื่อนไหวของราคาทองคำเมื่อวานนี้ โดยรวมแล้วยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบ หลังจากที่ราคาทองปรับขึ้นต่อเนื่องจากปลายสัปดาห์ที่แล้ว และปิดตลาดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 โดยในระยะสั้นยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นต่อ หากราคาปรับฐานลง สามารถกลับเข้าซื้อเก็งกำไร
ด้านปัจจัยที่ส่งผลลบต่อราคาทองคำเมื่อวานนี้ จากรายงานของกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนกรกฏาคม ร่วงลง 7.3% ซึ่งร่วงลงหนักสุดในรอบกว่า 1 ปี และลดลงรุนแรงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดไว้ว่าจะปรับตัวลง 4% ทำให้ปัจจัยดังกล่าวข้างต้นส่งผลให้ ราคาทองคำนิวยอร์คปิดลดลงเล็กน้อย หลังจากช่วงหนึ่งของการซื้อขายสามารถขยับขึ้นไปแตะ 1,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยสัญญาทองคำ ตลาด COMEX ปิดลดลง 2.70 ดอลลาร์ ที่ 1,393.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านราคาทองคำในประเทศยังคงได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าลงของเงินบาทแม้เมื่อวานนี้จะแข็งค่าขึ่นเล็กน้อยจากสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งแนวโน้มเงินบาทก็ยังจะคงอ่อนค่าลงต่อเนื่อง จากรายงานตัวเลขการส่งออกของกระทรวงพาณิชย์เดือนกรกฏาคม ปรับตัวลดลง 1.48% จากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเป็นการลดลงต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 แล้ว จากปัจจัยการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
กองทุน SPDR ไม่มีรายงานการเปลี่ยนแปลงปริมาณการถือครองทองคำ โดยปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำรวมทั้งสิ้น 920.13 ตัน
และสำหรับแนวโน้มราคาทองคำในวันนี้ บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ จำกัด วิเคราะห์เอาไว้ว่า ภาพการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในระยะสั้นมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นต่อ หลังจากวานนี้ราคาทองกลับขึ้นมาเคลื่อนไหวเหนือแนวต้านบริเวณ 1,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จึงยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นสู่แนวต้านบริเวณ 1,425 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้ต่อไป แต่ด้วยราคาที่ปรับตัวขึ้นติดต่อกันหลายวัน จึงอาจมีแรงขายทำกำไรสลับออกมาเป็นระยะๆ โดยมีแนวรับของวันอยู่ที่บริเวณ 1,390-1,395 และ 1,375 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ด้านเงินบาทมีแนวโน้มที่จะอ่อนค่าลงต่อ จึงยังเป็นปัจจัยบวกต่อการปรับขึ้นของราคาทองคำในประเทศ.
ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ลงหลังจากดีดตัวขึ้นต่อเนื่องในการซื้อขายช่วงปลายสัปดาห์ โดยราคาอ่อนตัวลงในการซื้อขายช่วงกลางวันก่อนที่จะดีดตัวขึ้นในการซื้อขายช่วงค่ำ และสามารถกลับขึ้นมายืนเหนือแนวต้าน บริเวณ 1,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้อีกครั้ง ส่วนราคาทองในประเทศยังคงได้รับปัจจัยบวกจากเงินบาทที่อ่อนค่าลง โดยการรายงานตัวเลขส่งออกของไทยจากกระทรวงพาณิชย์เป็นประเด็นลบที่ส่งผลให้เงินบาทอ่อนค่าลง
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 550 | 50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 17:09 น. | (ครั้งที่ 14) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง