แนวโน้มราคาทองพรุ่งนี้(28 พฤษภาคม 56) โดย YLG
โดยมุมมองเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอ่ของจีน นักลงทุนในตลาดทองคำกำลังให้ความสนใจกับประเด็นที่ว่ารัฐบาลจีนควรจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกครั้งหรือไม่ โดยคอมมอนเวลธ์ แบงก์ ออฟ ออสเตรเลีย ระบุว่า คาดว่าจีนจะไม่ออกมาตรการกระตุ้นใดๆ แม้ภาคการผลิตชะลอตัวลง เนื่องจากเศรษฐกิจยังคงมีแนวโน้มขยายตัว 7.5 – 8% ในปีนี้ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาล ขณะที่กองบรรณาธิการข่าวต่างประเทศของหนังสือพิมพ์พีเพิลส์ เดลี่ ของจีน รายงานโดยอ้างคำพูดของผู้เชี่ยวชาญหลายคนว่า จีนยังไม่มีแนวโน้มที่จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจถึงแม้ว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจะอ่อนแอลงอันเนื่องมาจากภาวะตลาดภายในประเทศ มุมมองดังกล่าวส่งผลเชิงลบต่อทิศทางราคาทองคำเพราะจีนเป็นประเทศที่บริโภคทองคำเป็นอันดับต้นๆ ของโลก หากเศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงโดยขาดมาตรการกระตุ้นจะส่งผลให้เกิดแนวโน้วเชิงลบต่อทิศทางราคาทองคำเช่นกัน
อย่างไรก็ดี ราคาทองคำสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบเป็นรายสัปดาห์ราคาทองคำพุ่งขึ้นสูงที่สุดในรอบ 1 เดือน โดยได้รับแรงหนุนจากการร่วงลงของตลาดหุ้น และการอ่อนลงของค่าดอลลาร์ ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาทั้งสัปดาห์ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลบ 0.3% ขณะที่ดัชนี S&P 500 และดัชนี Nasdaq ต่างปรับตัวลง 1.1% โดยดัชนีทั้ง 3 ร่วงลงเป็นรายสัปดาห์หนักสุดนับตั้งแต่กลางเดือนเมษายน เบื้องต้นวายแอลจียังคงแนะนำให้เข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น เนื่องจากราคาทองคำมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway โดยคาดว่าราคามีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,403 หรือ 1,408 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากไม่สามารถผ่านแนวต้านไปได้จะเห็นการอ่อนตัวของราคาลง ประเมินแนวรับที่ 1,384 หรือ 1,377 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำจะมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวออกด้านข้าง เบื้องต้นประเมินว่าหากราคาสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,377 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาจะค่อยๆขยับขึ้นในลักษณะ Sideway อย่างไรก็ตาม เมื่อราคาขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,403 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 1,408 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังไม่สามารถผ่านไปได้แนะนำขายทำกำไรบางส่วน แนะนำนักลงทุนเข้าซื้อเมื่อราคามีการย่อตัวเข้าใกล้บริเวณแนวรับ 1,384 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 1,377 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากราคาไม่หลุดแนวรับราคาทองคำยังมีโอกาสค่อยๆขยับขึ้นทดสอบกรอบราคาด้านบนอีกครั้ง
ทองคำแท่ง (96.5%)
- แนวรับ 1,384 (19,520บาท) 1,377 (19,430บาท) 1,362 (19,210บาท)
- แนวต้าน 1,403 (19,790บาท) 1,408 (19,860บาท) 1,420 (20,030บาท)
GOLD FUTURES (GFM13)
- แนวรับ 1,384 (19,700บาท) 1,377 (19,600บาท) 1,362 (19,390บาท)
- แนวต้าน 1,403 (19,970บาท) 1,408 (20,040บาท) 1,420 (20,210บาท)
SILVER FUTURES (SVM13)
- แนวรับ 22.20 (664บาท) 21.95 (656บาท) 21.50 (643บาท)
- แนวต้าน 22.95 (686บาท) 23.40 (700บาท) 23.90 (715บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888 หรือwww.ylgbullion.com
ที่มาโดย : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ดอลลาร์แข็งค่า-พันธบัตรสหรัฐพุ่ง ฉุดทองคำโลกทองไทยร่วงลงหนัก
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 43,600.00 | 43,700.00 |
ทองรูปพรรณ | 42,811.84 | 44,200.00 |
วันนี้ 600 | 50 | |
21 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 15:38 น. | (ครั้งที่ 7) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง