แนะจับตาผลประชุม ECB คาดมีผลต่อราคาทอง
โดยจับตาการประชุมธนาคารกลางยุโรปและธนาคารกลางอังกฤษในช่วงเย็นวันนี้ ที่เบื้องต้นมีการคาดการณ์ว่า อาจจะมีการปรับลดดอกเบี้ย หรือมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งอาจจะมีผลต่อราคาทองคำ ด้านนักวิเคราะห์ให้ที่แนวรับวันนี้ที่บริเวณ 1,645-1,650 และ 1,640 ดอลลาร์ต่อออนซ์…
ราคาทองคำดีดตัวขึ้นเข้าใกล้แนวต้านของวัน บริเวณ 1,665 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่จะเริ่มมีแรงขายกลับออกมา จนราคากลับลงมาปิดในแดนลบ แต่โดยรวมแล้ว การเคลื่อนไหวของราคาทองวานนี้ ยังคงเป็นการแกว่งตัวในกรอบแนวรับแนวต้านทางเทคนิค หลังจากยังไม่มีปัจจัย ชี้นำใหม่ๆ ที่มีนัยสำคัญเพียงพอ ที่จะทำให้ราคาทองปรับตัวขึ้น หรือลงได้มากนัก
โดยราคาทองคำปิดตลาดเมื่อวานนี้ที่ 1,657.39 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปรับตัวลดลง 1.21 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดในระหว่างวันที่บริเวณ 1,652 และ 1,665 ดอลลาร์ต่อออนซ์ตามลำดับ ส่วนราคาซื้อขายทองคำแท่งในประเทศเมื่อวาน ขายออกที่บาทละ 24,000 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 23,900 บาท กองทุน SPDR ไม่มีรายงานการเปลี่ยนแปลงปริมาณการถือทองคำ โดยปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำ รวม 1,339.84 ตัน
คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.75% ตามที่ตลาดคาดการณ์ จึงมีผลต่อการเคลื่อนไหวของเงินบาทไม่มากนัก แต่ด้วยกระแสเงินทุนที่ไหลเข้ามาเก็งกำไรในตลาดหุ้น ทำให้ค่าเงินบาทของไทย ยังมีแนวโน้มที่จะแข็งค่าขึ้นต่อ และนอกจากจะมีการตรึงดอกเบี้ยไว้ที่ 2.75% ตามที่ตลาดคาดการณ์แล้ว ในแถลงการณ์หลังการประชุม คณะกรรมการนโยบายการเงินของไทย มองว่าอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันเป็นระดับที่ช่วยสนับสนุนอุปสงค์ในประเทศและการเติบโตของเศรษฐกิจไทย ถึงเเม้จะยังมีความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก แต่ก็เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัว จึงยังไม่มีการปรับระดับอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบัน
ส่วนในช่วงเย็นวันนี้ จะมีการประชุมของธนาคารกลางอังกฤษและธนาคารกลางยุโรป ซึ่งเป็นประเด็นที่ตลาดให้ความสนใจ โดยเฉพาะกรณีของธนาคารกลางยุโรป หากมีการปรับลดดอกเบี้ย หรือมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็จะเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ อย่างไรก็ตาม คาดว่าผลการประชุมจะยังไม่มีการปรับระดับอัตราดอกเบี้ย และไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใดๆ เพิ่มเติม ประเด็นนี้ จึงไม่น่าจะส่งผลให้ราคาทองแกว่งตัวกว้างมากนัก การเคลื่อนไหวของราคาทองในวันนี้ จึงคาดว่าราคาอาจยังแกว่งตัวอยู่ในกรอบแนวรับแนวต้านบริเวณ 1,640-1,665 ดอลลาร์ต่อออนซ์ต่อไป หากว่าราคาทองคำสามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,665 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้ ก็จะเป็นสัญญาณซื้อสำหรับเก็งกำไรรอบใหม่ โดยมีเป้าหมายถัดไปอยู่ที่บริเวณ 1,678-1,680 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากราคากลับปรับตัวลงในการซื้อขายระหว่างวันที่แนวรับบริเวณ 1,645-1,650 และ 1,640 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังเป็นระดับแนวรับที่สามารถกลับเข้าซื้อเก็งกำไรการดีดตัวกลับ โดยคาดว่าการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงนี้ จะยังเป็นการเคลื่อนไหวตามปัจจัยทางเทคนิคเป็นหลัก แต่หากมีประเด็นข่าวใหม่ๆ รายงานออกมา ก็จะส่งผลให้ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบที่กว้างมากขึ้น.
ข้อมูลจาก : ไทยรัฐออนไลน์
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ดอลลาร์แข็งค่า-พันธบัตรสหรัฐพุ่ง ฉุดทองคำโลกทองไทยร่วงลงหนัก
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 43,600.00 | 43,700.00 |
ทองรูปพรรณ | 42,811.84 | 44,200.00 |
วันนี้ 600 | 50 | |
21 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 15:38 น. | (ครั้งที่ 7) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวราคาทองคำ