ทองร่วง!! รอบสัปดาห์ หลังดอลลาร์แข็งเศรษฐกิจสหรัฐสดใส สภาทองโลกเผยทั้งโลกลดซื้อทอง
โดยราคาทองคำร่วงลง หลังสภาทองคำโลก เปิดเผยว่าความต้องการทองคำจากทั่วโลกโดยเฉพาะจีนและอินเดีย ปรับตัวลดลงในช่วงไตรมาส 2 นอกจากนี้ทองคำยังได้รับปัจจัยลบจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐหลังเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่สดใส
ทองคำร่วงลง หลังจากก่อนหน้านี้ที่พุ่งขึ้นติดต่อกัน 5 วัน หลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลความต้องการทองคำจากทั่วโลกของสภาทองคำโลก(WGC) ว่า ความต้องการทองคำทั่วโลกในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ ลดลง 12% สู่ระดับ 914.9 ตัน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี เทียบกับไตรมาส 2 ปีที่แล้วที่ 1,038 ตัน
โดยเหตุผลหลักสภาทองคำโลก เปิดเผยว่าเนื่องมาจากกลุ่มผู้บริโภคทองคำในภูมิภาคเอเชียทั้งจีนและอินเดียซึ่งเป็นผู้บริโภคทองคำอันดับต้นๆ ของโลกลดการถือครองทองคำลง ทั้งนี้ในจีนและอินเดีย เป็นผู้บริโภคทองคำคิดเป็นสัดส่วนราวครึ่งหนึ่งของปริมาณการใช้ทองคำทั่วโลก โดยความต้องการทองคำในอินเดียทรุดฮวบลง 25% สู่ระดับ 154.5 ตันในไตรมาส 2 จากระดับ 204.9 ตันในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ส่วนความต้องการทองคำในจีนลดลง 3% สู่ระดับ 216.5 ตัน จากระดับ 224.1 ตันในไตรมาส 2 ปีก่อน
ทั้งนี้ทางสภาทองคำโลกยังประมาณการว่า ความต้องการทองคำจากทั่วโลกตลอดทั้งปีนี้(2558) จะอยู่ที่ราวประมาณ 4,200 – 4,300 ตัน
และนอกจากนี้ ทองคำยังได้รับปัจจัยลบกดดันให้ราคาปรับลดลง จากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลยอดค้าปลีกเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 0.6% และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์กันไว้ ซึ่งจากข้อมูลดังกล่าวได้สนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้
ส่วนภาวะการอ่อนตัวลงของค่าเงินหยวนของจีนนั้นเริ่มกลับมาอยู่ในสภาวะปกติมากขึ้น หลังเงินหยวนอ่อนตัวลงตลอดทั้งสัปดาห์ ซึ่งได้สร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดเงินตลาดทุนทั่วโลก และล่าสุดเงินหยวนเริ่มกลับมามีเสถียรภาพมากขึ้นหลังจากธนาคารกลางจีนออกแถลงการณ์ยืนยันว่าจะรักษาเสถียรภาพเงินหยวนให้อยู่ในระดับที่สมเหตุสมผลและมีความสมดุล ขณะเดียวกันธนาคารกลางจีนระบุว่าไม่เห็นเหตุผลทางด้านเศรษฐกิจที่จะสนับสนุนให้หยวนอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง
ทางด้านราคาทองในประเทศ เมื่อวานนี้ทองในประเทศกลับมาทำประกาศราคาโดยสมาคมค้าทองคำ หลังหยุดในวันแม่แห่งชาติ และพบความเคลื่อนไหว 2 ครั้งและเป็นการปรับขึ้น 1 ครั้งและลง 1 ครั้งรวมทั้งวันทองปรับขึ้น 50 บาท ส่วนเปิดตลาดทองเช้านี้ ทองลดลง 50 บาท โดยมีเงินบาทยังอ่อนค่าเป็นปัจจัยบวกหนุนไม่ให้ราคาปรับลดลงได้มากกว่าปกติ
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำคาดจะแกว่งตัวในกรอบที่แคบลงและอ่อนตัวลง หลังจากที่ตลาดคลายความกังวลในประเด็นการปรับลดค่ากลางเงินหยวนของจีนทำให้คาดว่าแรงซื้อทองคำเริ่มชะลอลง โดยเมื่อวานกองทุนอีทีเอฟทองคำ SPDR ไม่ได้เปลี่ยนแปลงปริมาณการถือครองทองคำ หลังจากเพิ่มปริมาณการถือครองทองคำเมื่อวันพุธ 4.18ตัน ระยะสั้นราคาทองคำมีแนวรับที่ 1,110 และ 1,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์ตามลำดับ ขณะที่ราคาทองคำมีแนวต้านสำคัญที่ 1,130 ดอลลาร์ต่อออนซ์ที่คาดว่าจะผ่านขึ้นไปได้ยาก
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรงทะลุระดับ 2,700$
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 0 | 0 | |
23 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 09:00 น. | (ครั้งที่ 1) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง