ทองโลกปรับขึ้นต่อเนื่อง เช้านี้พุ่งแรงเหนือ $1,170 ในประเทศรับอานิสงส์ปรับขึ้น 350
โดยราคาทองคำนิวยอร์กปิดบวกเป็นวันที่ 3 แต่เป็นการปรับเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย โดยปัจจัยบวกหนุนมาจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ ข้อมูลการค้าประจำเดือนกันยายนที่อ่อนแอของจีนยังช่วยหนุนแรงซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
ทองคำยังอยู่ในช่วงขาขึ้นจากปัจจัยบวกแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ อันเนื่องมาจากกระแสคาดการณ์เรื่องการเลื่อนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ออกไปเป็นปีหน้า
นอกจากนี้ ข้อมูลการค้าที่อ่อนแอของจีนยังกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยสำนักงานศุลกากรของจีนเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า การส่งออกของจีนในเดือนกันยายน ลดลง 1.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 1.3 ล้านล้านหยวน หลังจากที่ร่วงลง 6.1% ในเดือนสิงหาคม ขณะที่การนำเข้าเดือนกันยายน ร่วงลง 17.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 9.24 แสนล้านหยวน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรุนแรงกว่าเดือนสิงหาคมที่ลดลง 14.3%
ทั้งนี้ การร่วงลงอย่างหนักของยอดการนำเข้าส่งผลให้จีนมียอดเกินดุลการค้าในเดือนกันยายนพุ่งขึ้น 96.1% สู่ระดับ 3.762 แสนล้านหยวน (5.95 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากระดับ 3.68 แสนล้านหยวนในเดือนสิงหาคม
ส่วนในคืนวันนี้มีรายงานเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐที่ตลาดให้ความสนใจนอกจาก ตัวเลขยอดค้าปลีกและดัชนีราคาผู้ผลิตประจำเดือนกันยายน ยังมีจะการรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) เพื่อจับสัญญาณทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดได้ออกมาส่งสัญญาณที่ขัดแย้งกัน โดยนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ ส่งสัญญาณว่า ขณะนี้เป็นเวลาเหมาะสมที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งขัดแย้งกับที่นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโก กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า เฟดไม่ควรรีบเร่งในกระบวนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ทางด้านราคาทองคำในประเทศ เมื่อวานนี้ทองในประเทศเคลื่อนไหวเปิดตลาดเพียง 1 ครั้งโดยเป็นการปรับลดลง 100 บาท ขณะที่เปิดตลาดทองในประเทศเช้าวันนี้ ทองในประเทศพุ่งพรวด 350 บาท โดยเป็นผมมาจากทองคำตลาดโลกเช้านี้พุ่งขึ้นเหนือแนวต้าน 1,170 ดอลลาร์ต่อออนซ์ที่ระดับ 1,173 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยคาดว่าเป็นผลเนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจของจีนที่ประกาศออกมาล่าสุดไม่ค่อยดีนัก ซึ่งปัจจัยดังกล่าวส่งผลต่อทิศทางของเงินบาทให้มีแนวโน้มอ่อนค่าลง
ทางด้านแนวโน้มทองคำในทางเทคนิค นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัดและผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวว่า ราคาทองคำปรับตัวขึ้นเหนือแนวต้านเมื่อวานทำให้มีแนวโน้มในการปรับตัวขึ้นต่อ มีแนวต้านถัดไปบริเวณ 1,185 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนวรับ 1,155 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ จะเลื่อนการขึ้นดอกเบี้ยไปปีหน้า ซึ่งทำให้ความน่าสนใจในการลงทุนทองคำมีเพิ่มมากขึ้น ท่ามกลางแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 550 | 50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 17:09 น. | (ครั้งที่ 14) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวราคาทองคำ, ข่าวราคาน้ำมัน, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง