ทองพุ่ง 4 วันติดสูงสุดรอบเกือบ 4 เดือนจากดอลลาร์อ่อน ในประเทศบาทแข็งทองขึ้นไม่มาก
โดยราคาทองคำนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นอีกครั้งเมื่่อคืนที่ผ่าน และเป็นการปิดในแดนบวกติดต่อกัน 4 วันทำการเนื่องมาจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐส่งผลให้สกุลเงินดอลลาอ่อนค่าลง กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพราะมีราคาถูกลงเมื่อเทียบกับผู้ถือสกุลเงินอื่นๆ
ทองคำได้รับปัจจัยบวกหนุนอย่างต่อเนื่่องจนราคาทะยานแตะระดับ 1,190 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนครึ่ง อันเป็นผลมาจากการอ่อนค่าลงของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่สหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยเมื่อคืนที่ผ่านมาว่า ยอดค้าปลีกในเดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 0.1% ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2%
ขณะเดียวกันกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในเดือนกันยายนร่วงลง 0.5% บ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำ อันเนื่องมาจากการร่วงลงของราคาน้ำมัน และสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น
และจากรายงานเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐดังกล่าวทำให้ นักวิเคราะห์มองว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าผิดหวังนี้ได้สนับสนุนความเชื่อมั่นที่คาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะมีการปรับเลื่อนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปเป็นปีนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีข้อมูลสนับสนุนเหตุผลดังกล่าวจากเจ้าหน้าที่เฟดหลายรายซึ่งได้ออกมาเตือนถึงความเสี่ยงในการปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วเกินไป
ขณะที่รายงานจากกองทุน SPDR Gold Trust ว่ากองทุนได้เข้าถือครองทองคำเพิ่มเติมอีก 7.74 ตัน รวมทั้งหมดในปัจจุบันกองทุนถือทองคำอยู่ที่ประมาณ 694.94 ตัน ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นอย่างที่มีนัยสำคัญและเป็นสัญญาณที่ดีต่อราคาทองคำ หลังจากที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงปริมาณการถือครองทองคำ 5 วันติดต่อกัน
ส่วนในคืนวันนี้มีรายงานเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐอย่าง ตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ โดยตลาดคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีรายงานดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนกันยายน โดยตลาดคาดการณ์ว่าต้วเลขดังกล่าวจะลดลง ซึ่งจะส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มอ่อนค่าลง และเป็นปัจจัยบวกหนุนราคาทองคำให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทางด้านราคาทองในประเทศ เมื่อวานนี้ทองในประเทศเคลื่อนไหวรวม 4 คร้ังโดยปรับขึ้น 1 คร้้งและลดลง 3 ครั้งรวม สรุปราคารวมทั้งวันทองขึ้น 200 บาทขณะที่เปิดตลาดทองในประเทศเช้าวันนี้ ทองปรับขึ้น 50 บาทหลังจากนั้นอีกไม่นานทองปรับขึ้นครั้งที่ 2 อีก 50 บาท โดยเป็นผลมาจากทองคำตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้น ขณะที่เงินบาทเคลื่อนไหวสวนทางโดยแข็งค่าขึ้นเป็นอย่างมากหลังจากเงินดอลลาร์อ่อนค่า และส่งผลโดยตรงต่อทองคำในประเทศให้ปรับขึ้นได้น้อยกว่าปกติ
ทางด้านแนวโน้มราคาทองคำทางเทคนิค บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่วว่า หลังจากที่ราคาทองคำสามารถทะลุแนวต้านที่ 1,177 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ทำให้ราคาทองคำกลับเป็นขาขึ้นในระยะยาว และมีแนวโน้มปรับขึ้นไปที่ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ราคาทองคำมีแนวต้านที่ 1,190 และ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ขณะที่มีแนวรับระหว่างวันที่ 1,176 และ 1,165 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 550 | 50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 17:09 น. | (ครั้งที่ 14) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง