ทองร่วงหนัก เฟดพร้อมขึ้นดอกเบี้ย ธ.ค.ในประเทศบาทอ่อนทองร่วงแรง
โดยราคาทองคำนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักกว่า 28 ดอลลาร์ หลังการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ที่เพิ่งเสร็จสิ้นไปเมื่อวันพุธที่ผ่านมาตามเวลาสหรัฐ ซึ่งเฟดได้ส่งสัญญาณในการประชุมครั้งนี้ว่าจะพิจารณาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไปเดือนธันวาคม
ทองคำร่วงลงอย่างหนักถึง 28.80 ดอลลาร์หรือคิดเป็นกว่า 2.45% โดยหลุดระดับแนวรับ 1,150 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน(FOMC) ของเฟดที่เพิ่งจะเสร็จสิ้นไปเมื่อวันพุธตามเวลาสหรัฐ ซึ่งเฟดได้ส่งสัญญาณในการประชุมครั้งนี้ว่า เฟดจะพิจารณาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้
โดยในรายละเอียดแถลงการณ์ภายหลังการประชุมของเฟดระบุว่า คณะกรรมการเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยในช่วง 0-0.25% ต่อไป ส่วนในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนธันวาคมนั้น จะเป็นเวลาที่เฟดจะทำการพิจารณาว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ โดยเฟดจะประเมินความคืบหน้าทั้งที่เกิดขึ้นจริง และที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ต่อการบรรลุเป้าหมายของการจ้างงานที่ระดับสูงสุด และอัตราเงินเฟ้อที่ระดับ 2%
อย่างไรก็ตามยังพอมีแรงสกัดกั้นการร่วงลงของทองคำอยู่บ้างเมื่่อพบการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐออกมาอ่อนแอ เมื่อตัวเลขประมาณการครั้งแรกของจีดีพีไตรมาส3 สหรัฐขยายตัว ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์เพียง 1.5% โดยตลาดคาดการณ์ไว้ที่ระดับ 1.6% และเป็นระดับที่ต่ำกว่าตัวเลขจีดีพีในไตรมาส 2 โดยสาเหตุของการชะลอตัวของจีดีพีไตรมาสในไตรมาส 3 นี้นั้นเป็นผลมาจากการที่บริษัทต่างๆ ลดการผลิต ขณะที่ผู้บริโภค ภาคธุรกิจ และรัฐบาลชะลอการใช้จ่าย นอกจากยังมีตัวเลขดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายในเดือนกันยายนของสหรัฐปรับตัวลงอีกเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน
ส่วนในคืนนี้รายงานเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ จะเปิดเผยข้อมูลดัชนีราคาการใช้จ่ายผู้บริโภคพื้นฐานเดือนกันยายนและดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนตุลาคม
ด้านราคาทองในประเทศเมื่อวานนี้ทองในประเทศเคลื่อนไหว 4 ครั้งโดยปรับลง 3 ครั้งและปรับขึ้น 1 ครั้ง รวมราคาพบว่าทองลดลง 100 บาท ขณะที่เปิดตลาดทองในประเทศเช้าวันศุกร์สุดสัปดาห์ ทองลงพรวดเดียว 200 บาท โดยเป็นผลมาจากทองคำตลาดโลกร่วงลงหนักตั้งแต่เมื่อวาน เนื่องมาจากแรงกดดันจากการส่งสัญญานการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในเดือนธันวาคมทีจะถึงนี้ ส่วนเงินบาทมีแนวโน้มเคลื่อนไหวอ่อนค่าตามตลาดภูมิภาคจากความกังวลประเด็นที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วงเวลาที่กล่าวมาข้างต้น ซึ่งการอ่อนค่าของเงินบาทจะส่งผลเป็นปัจจัยบวกต่อทองในประเทศ
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด มองแนวโน้มของราคาทองคำในวันนี้ว่า ทองคำจะมีแนวรับสำคัญที่ 1,140 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นแนวรับของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วันและ 100 วัน ดังนั้นคาดว่าจะเป็นแนวรับแข็งแกร่งในระยะสั้น และราคาทองคำน่าจะพักฐานที่บริเวณดังกล่าว แต่ถ้าหลุดจากแนวรับดังกล่าวจะทำให้ราคาทองคำเกิดสัญญาณขายและมีโอกาสลงไปที่ 1,130 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 1,160 และ 1,170 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 550 | 50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 17:09 น. | (ครั้งที่ 14) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง