สัปดาห์นี้ทองโลกร่วง คาดเฟดขึ้นดอกเบี้ย ในประเทศทองคงที่บาทอ่อนหนุน
โดยภาพรวมราคาทองคำสัปดาห์นี้เคลื่อนใหวในกรอบแนวรับแนวต้านสำคัญ โดยทองคำปรับตัวร่วงลงหลุดระดับแนวรับสำคัญ 1,080 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ระดับ 1,074.26 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 6 ปี ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2010
ทั้งนี้ ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในภายใต้แรงกดดันจากความคาดหวังของตลาดที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งสุดท้ายของปีเดือนธันวาคม หลังจากสหรัฐเปิดเผยรายงานจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ออกมาแข็งแกร่ง
ขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดท้้งประธานเฟด และรองประธานเฟดสาขาต่างๆ ต่างก็ส่งสัญญานเสมือนว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมนี้จะเกิดขึ้นแน่นอน และล่าสุดมมีความเห็นจาก นายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ค ก็มีท่าทีสนับสนุนแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมนี้ โดยกล่าวว่า ความเสี่ยงจากการรอนานเกินไปอยู่ในภาวะสมดุลกับความเสี่ยงที่จะดำเนินการเร็วเกินไปในการปรับอัตราดอกเบี้ยให้เป็นปกติหลังจากที่เฟดใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยใกล้ 0%มาร่วม 7 ปี
ความวิตกกังวลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดนำมาซึ่งการแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และส่งผลกดดันต่อราคาทองคำ ซึ่งปกติราคาทองคำและดอลลาร์จะเคลื่อนไหวในทิศทางที่ตรงกันข้าม ซึ่งหมายความว่า หากดอลลาร์ปรับตัวเพิ่มขึ้นราคาทองคำจะปรับตัวลดลง เมื่อวัดจากดอลลาร์ เนื่องจากทองคำจะมีราคาสูงขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ
ทางด้านราคาทองในประเทศ ตลอดทั้งสัปดาห์นี้สรุปราคาทองคำไม่เปลี่ยนแปลงไปจากราคาซื้อขายเมื่อวันศุกร์สัปดาห์ก่อน โดยพบว่าเมื่อราคาปรับลดลงก็จะมีราคาปรับขึ้นชดเชยราคาที่ลดลง ตรงกันข้ามหากราคาปรับขึ้นหลังจากนั้นราคาก็จะปรับลดลงชดเชยราคาที่ปรับเพิ่มขึ้น ส่วนเงินบาทในสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่เงินบาทอ่อนค่าใกล้ระดับ 36 บาทต่อดอลลาร์ซึ่งเป็นแรงหนุนต่อทองคำในประเทศได้เป็นอย่างมาก กล่าวคือ แม้ว่าสัปดาห์นี้ทองคำตลาดโลกร่วงลงหนัก แต่ก็พบทองในประเทศราคาปรับลดลงไม่มาก
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำทางเทคนิคยังอยู่ในช่วงขาลง(downtrend) ซึ่งราคาทองคำเริ่มเคลื่อนไหว sideway เพื่อสร้างฐานแถวบริเวณ 1,075-1,085 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำมีแนวรับระยะสั้นที่ 1,075 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำปรับตัวลงหลุดจากแนวรับดังกล่าวคาดว่าราคาจะปรับตัวลงสู่แนวรับถัดไปที่ 1,060 และ 1,050ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ส่วนแนวต้านระยะสั้นอยู่ที่ 1,095-1,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์ตามลำดับ
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 550 | 50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 17:09 น. | (ครั้งที่ 14) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง