รายงานเศรษฐกิจสหรัฐคืนนี้ส่งผลทองผันผวน ในประเทศบาทแข็งทองลง
โดยราคาทองคำกลับมาปิดในแดนลบเมื่อวานนี้ หลังจากเมื่อวันก่อนฟื้นตัวขึ้น จากที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปีไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามการลดลงของทองคำเป็นเพียงแค่ระยะพักฐานทางเทคนิค โดยนักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้อย่างใกล้ชิด
ราคาทองคำเข้าสู่ระยะพักฐานทางเทคนิค ก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์มองว่าหากตัวเลขดังกล่าวออกมาแข็งแกร่ง ก็จะส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 15-16 ธันวาคมนี้ ซึ่งในวันนี้จะมีเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนทั่วประเทศของADP ประจำเดือนพฤศจิกายน โดยตลาดประเมินว่าตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนในคืนวันนี้ จะทำให้ประเมินได้ว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์จะออกมาในทิศทางใด ซึ่งส่วนใหญ่จะออกมาสอดคล้องกัน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) ในวันพรุ่งนี้ โดยมีกระแสคาดการณ์ในตลาดว่าอีซีบี จะเดินหน้าเพิ่มมาตรการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจยูโรโซน หรือ อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ โดยนักวิเคราะห์ประเมินว่าประเเด็นดังกล่าวจะส่งผลกดดันต่อราคาทองคำผ่านการแข็งค่าของเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับเงินยูโร
ส่วนรายงานข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมาออกมาค่อนข้างน่าผิดหวัง โดยตัวเลขภาคการผลิตที่ออกมาอ่อนแอส่งผลต่อเงินดอลลาร์ให้อ่อนค่าลงและเป็นแรงผลักดัดให้ทองคำฟื้นตัวขึ้น โดยดัชนี ISMภาคการผลิตเดือนพฤศจิกายน ลดลงสู่ระดับ 48.6 สวนทางกับที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 50.6 โดยการลดลงของดัชนีISM ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอและการแข็งค่าของดอลลาร์
ส่วนในคืนนี้นอกจากสหรัฐจะมีการเปิดเผยการตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนทั่วประเทศของ ADP ประจำเดือนพฤศจิกายนแล้ว ยังมีประเด็นเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างคำแถลงของประธานเฟดที่จะแถลงเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจต่อสโมสรเศรษฐกิจวอชิงตันในช่วงดึก รวมถึงจะมีการเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของเฟด(Beige Book) ทั้ง 12 เขต ต่อภาวะเศรษฐกิจสหรัฐในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา รวมทั้งอาจมีการคาดการณ์แนวโน้มภาวะเศรษฐกิจในอนาคต ทั้งนี้มุมมองของประธานเฟดต่อภาวะเศรษฐกิจสหรัฐคาดว่าจะมีผลต่อราคาทองคำ
ทางด้านราคาทองในประเทศ เมื่อวานนี้ราคาทองเคลื่อนไหวตอนเปิดตลาดที่ปรับขึ้น 200 บาท เพียงครั้งเดียวโดยมีค่าเงินบาทที่่อ่อนค่าเป็นแรงบวกสำคัญต่อทองในประเทศ ขณะที่เปิดตลาดทองในประเทศเช้าวันนี้ ปรับลดลง 50 บาท โดยเป็นผลมาจากการขยับลงของทองคำโลกบวกกับเงินบาที่แข็งค่าขึ้นกว่าเมื่อวาน
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำคาดผันผวนในกรณีที่การจ้างงานภาคเอกชนADPเดือนพฤศจิกายนของสหรัฐ ออกมาดีกว่าหรือแย่กว่าที่ตลาดคาดการณ์ ระยะสั้นทองคำมีแนวรับที่ 1,060 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และมีแนวรับสำคัญที่ 1,050 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่มีแนวต้านระยะสั้นที่ 1,075และ 1,080 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 550 | 50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 17:09 น. | (ครั้งที่ 14) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง