ฮั่วเซ่งเฮง คาดสัปดาห์หน้าวิกฤติการเงินในไซปรัส ยังกระทบต่อทิศทางราคาทอง
โดยสัปดาห์นี้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องจนทะลุแนวต้านที่ 1,600 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ออนซ์ และขึ้นไปสูงสุดที่ 1,615 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ออนซ์ มีแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยกลับเข้ามา จากที่ไซปรัสจะมีการออกมาตรการเก็บภาษีเงินฝาก เพื่อแลกกับการขอความรับช่วยเหลือทางการเงินระหว่างประเทศ วงเงิน 1 หมื่นล้านยูโรนั้น โดยไซปรัสจะมีการเก็บภาษีผู้ฝากเงินธนาคารในอัตรา 6.7% สำหรับเงินฝากที่ต่ำกว่า 100,000 ยูโร และอัตรา 9.9% สำหรับเงินฝากที่สูงกว่า 100,000 ยูโร
อย่างไรก็ดี ทางรัฐสภาของไซปรัสได้ลงมติคัดค้านมาตรการเก็บภาษีดังกล่าว ยิ่งทำให้ตลาดกังวลว่า ไซปรัส อาจจะเสี่ยงต่อการผิดนัดชำระหนี้ เนื่องจากจะไม่ได้รับเงินช่วยเหลือระหว่างประเทศ และอาจทำให้วิกฤติยูโรโซนลุกลามไปยังประเทศอื่น
สำหรับผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0-0.25% และยืนยันว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำเป็นพิเศษ และดำเนินโครงการซื้อสินทรัพย์ในวงเงินปัจจุบันที่ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนต่อไป จนกว่าอัตราว่างงานจะลดลงต่ำกว่าระดับ 6.5% ในแถลงการณ์หลังการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัวปานกลาง หลังจากที่อยู่ในภาวะชะงักงันในปีที่แล้ว ขณะที่ตลาดแรงงานเริ่มส่งสัญญาณการฟื้นตัว แต่อัตราว่างงานยังอยู่ในระดับสูง
สัปดาห์หน้าคาดวิกฤติการเงินในไซปรัส ยังกระทบต่อทิศทางราคาทอง เนื่องจากวิกฤติการเงินของไซปรัสที่ยังไม่ได้ข้อสรุป คาดว่าจะช่วยหนุนราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ต่อไป ขณะที่สหภาพยุโรปให้เวลาไซปรัสจนถึงวันจันทร์ที่ 25 มี.ค. ในการระดมทุน 5.8 พันล้านยูโร ตามที่อียูเรียกร้องมา เพื่อแลกกับการได้รับความช่วยเหลือทางการเงินจากอียู และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ซึ่งอาจส่งผลให้ไซปรัสต้องออกจากยูโรโซน ไซปรัสได้สั่งให้ธนาคารพาณิชย์ปิดทำการต่อไปจนถึงสัปดาห์หน้า เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะปั่นป่วนวุ่นวายทางการเงิน หลังจากรัฐสภาไซปรัสปฏิเสธเงื่อนไขในมาตรการให้ความช่วยเหลือทางการเงินของสหภาพยุโรป
สำหรับทางด้านสหรัฐฯ จะมีคำแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ คาดว่าไม่น่าจะมีเนื้อหาแตกต่างจากการแถลงหลังการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ดังนั้น คาดว่าจะไม่มีนัยสำคัญต่อราคาทองคำมากนัก สหรัฐฯ จะมีการประกาศจีดีพีไตรมาส 4 ซึ่งเป็นการประมาณการครั้งสุดท้าย คาดขยายตัว 0.4% จากที่ประมาณการครั้งก่อนขยายตัว 0.1%
ทั้งนี้ แนวโน้มราคาทองคาดยังทรงตัวในระดับที่สูง โดยมีแนวรับที่ 1,600 และ 1,590 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 1,620 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ถ้าหากสามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้ ก็จะเป็นการยืนยันสัญญาณซื้อก่อนที่ราคาจะปรับตัวขึ้นไปสู่แนวต้านบริเวณ 1,630-1,635 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ต่อไป.
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ดอลลาร์แข็งค่า-พันธบัตรสหรัฐพุ่ง ฉุดทองคำโลกทองไทยร่วงลงหนัก
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 43,600.00 | 43,700.00 |
ทองรูปพรรณ | 42,811.84 | 44,200.00 |
วันนี้ 600 | 50 | |
21 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 15:38 น. | (ครั้งที่ 7) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ