ทองพุ่งจากดอลลาร์อ่อน คาดเพียงระยะสั้น ในประเทศบาทแข็งทองขึ้น
โดยเมื่อวานนี้ราคาทองคำดีดตัวขึ้นเป็นวันแรกในในรอบ 3 วันทำการ เนื่องจากเพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่ร่วงลงเมื่อเทียบกับยูโร ซึ่งเป็นผลมาจากที่นักลงทุนผิดหวังธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
ทองคำดีดตัวขึ้นเข้าใกล้แนวต้านสำคัญ 1,065 ดอลลาร์ต่อออนซ์เพราะได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโรและสกุลเงินหลักๆ ทั้งนี้โดยปกติการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์จะส่งผลให้ทองคำที่มีการซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้นมีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่นๆ
โดยสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร หลังจากการประชุมของอีซีบีเมื่อวานนี้ไม่เป็นไปตามการคาดการณ์ของตลาด เนื่องจากประธานธนาคารกลางยุโรปเลือกที่จะขยายระยะเวลาในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) แทนที่จะเพิ่มวงเงินในการซื้อพันธบัตร จากปัจจุบันซื้อพันธบัตร 6 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน ทั้งนี้อีซีบีได้ประกาศขยายระยะเวลาในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE ไปจนถึงเดือนมีนาคม 2560 จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดในเดือนกันยายน 2559 และได้ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับธนาคารกลางยุโรปสู่ระดับ -0.3% จากเดิมที่ -0.2%
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนมองว่ามาตรการดังกล่าวยังไม่เพียงพอที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจยูโรโซนให้ฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งได้ โดยก่อนหน้านี้ตลาดคาดการณ์เป็นวงกว้างว่าอีซีบี จะเพิ่มวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE และจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากกว่าที่ได้ประกาศเมื่อวานนี้
ส่วนรายงานเศรษฐกิจของสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมานั้นไม่พบความเคลื่อนไหวที่ส่งผลต่อทองคำ โดยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 9,000 ราย สู่ระดับ 269,000 ซึ่งเป็นไปตามคาดการณ์ของตลาด ขณะที่ดัชนี ISMภาคบริการเดือนพฤศจิกายน ลดลงสู่ระดับ 55.9 ซึ่งลดลงมากกว่าที่ตลาดคาดไว้
และในคืนวันนี้มีรายงานเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐที่นักลงทุนต่างจับตาดูเป็นพิเศษ คือการประกาศตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนพฤศจิกายนของสหรัฐ เพราะเนื่องจากตัวเลขการจ้างงานดังกล่าวเป็นข้อมูลที่จะบ่งชี้ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้หรือไม่ ขณะที่ผลการสำรวจนักวิเคราะห์ระบุว่า กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง โดยลดลงจากระดับ 271,000 ตำแหน่งในเดือนตุลาคม และคาดว่า อัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 5.0%
นักวิเคราะห์ในตลาดคาดกันว่าหากในกรณีที่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรออกมาดีกว่าหรือแย่กว่าที่คาดการณ์ จะทำให้ราคาทองคำมีความผันผวน และจะประเมินความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันในที่ 15-16 ธันวาคมนี้
ด้านราคาทองในประเทศ เมื่อวานนี้เคลื่อไหวรวม 3 ครั้งสรุปตลาดพบว่าทองปรับลดลง 200 บาท โดยเป็นผลมาจากการร่วงลงของทองคำตลาดโลก แต่ยังมีปัจจัยการอ่อนค่าของเงินบาทพยุงราคาทองไม่ให้ลดลงมากกว่าปกติ ขณะที่เปิดตลาดเช้าวันี้ ทองปรับขึ้น 100 บาท หลังทองคำตลาดโลกดีดตัวขึ้น ขณะที่เงินบาทก็กลับมาแข็งค่าขึ้นเป็นผลให้มีแรงหนุนการฟื้นตัวของทองในประเทศน้อยลง
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มของราคาทองคำในทางเทคนิคจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,050-1,075 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยทองคำมีแนวรับที่บริเวณ 1,050 และ 1,042 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่มีแนวต้านระหว่างบริเวณ 1,065 และ 1,075 ดอลลาร์ต่อออนซ์ตามลำดับ
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 43,600.00 | 43,700.00 |
ทองรูปพรรณ | 42,811.84 | 44,200.00 |
วันนี้ 0 | ||
21 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 15:38 น. | (ครั้งที่ 7) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง