ทองระยะสั้นมีสัญญานฟื้นตัว แต่ระวังแรงเทขาย ในประเทศบาทอ่อนหนุนทอง
โดยราคาทองคำพยุงตัวอยู่ในกรอบแคบ โดยมีสัญญานบวกจากปัจจัยหนุนสกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน หลังจากญี่ปุ่นได้ปรับเพิ่มการประเมินตัวเลขจีดีพี ขณะที่นักลงทุนต่างระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า
ทองคำกลับมาได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับเยน โดยเงินเยนแข็งค่าขึ้นหลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นปรับเพิ่มประมาณการการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) ในไตรมาส 3 ของปีนี้ขึ้นสู่ระดับ 1% หลังจากที่ประกาศข้อมูลเบื้องต้นเดือนที่แล้วระบุว่าจีดีพีในไตรมาส 3 หดตัวลง 0.8%
อย่างไรก็ตาม ทองคำภาพรววมของราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ระหว่าง 1,067-1,078 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากนักลงทุนต่างระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่การประชุมนโยบายทางการเงิน(FOMC) ของเฟดจะมีขึ้นในวันที่ 15-16 ธันวาาคม หรือในสัปดาห์หน้านี้ โดยในช่วงที่ผ่านมานั้น เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดหลายท่านได้ออกมาส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งล่าสุดนายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ประธานเฟดสาขาแอตแลนต้ากล่าวว่า เศรษฐกิจและตลาดการเงินในปัจจันอยู่ในภาวะที่เอื้ออำนวยต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้
ทั้งนี้การแสดงความเห็นของนายล็อคฮาร์ทนั้นมีขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพฤศจิกายนของสหรัฐที่พุ่งขึ้นเกินคาดถึง 211,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 5.0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปีครึ่ง
ส่วนรายรายเศรษฐกิจที่สำคัญวันนี้ในฝั่งเอเชียจะมีการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิตประจำเดือนพฤศจิกายนของจีน โดยนักลงทุนต่างเฝ้าจับตารายงานดังกล่าวเพื่อประเมินภาวะเศรษฐกิจของจีน หลังจากเมื่อวานนี้ต้วเลขการส่งออกของจีนออกมาอ่อนแอ ส่งผลให้เกิดแรงเทขายหุ้นจากท่วโลกอย่างหนักประกอบกับการปรับแรงของราคาน้ำมัน ซึ่งเป็นผลให้มีเม็ดเงินไหลเข้าตลาดทองคำ
ขณะที่รายงานเศรษฐกิจของสหรัฐในคืนวันนี้จะไม่มีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ โดยตัวเลขเศรษฐกิจที่เหลือในสัปดาห์นี้จะไปเปิดเผยในวันพรุ่งนี้และวันศุกร์ทั้งตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีราคาผู้ผลิต ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและยอดค้าปลีก
ทางด้านราคาทองในประเทศ เมื่อวานนี้เคลื่อนไหว 3 คร้ั้งเป็นการปรับลดลง 1 ครั้งและเพิ่มขึ้น 2 ครั้งสรุปราคาตอนปิดตลาดพบว่าลดลง 100 บาท โดยมีเงินบาทอ่อนเป็นปัจจัยหนุนสำคัญต่อทองในประเทศขณะนี้ โดยเปิดตลาดทองในประเทศเช้าวันนี้อานิสงส์จากเงินบาทที่ยังอ่อนค่าต่อเนื่องใกล้ระดับ 36 บาทต่อดอลลาร์เป็นแรงหนุนสำคัญให้ทองปรับขึ้น 50 บาท
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า ระวังแรงเทขายทองคำในช่วงปลายสัปดาห์จากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นและการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า ล่าสุดประธานเฟดสาขาแอตแลนต้ากล่าวว่าเศรษฐกิจและตลาดการเงินในปัจจุบันอยู่ในภาวะที่เอื้ออำนวยต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้
แนวโน้มราคาทองคำทางเทคนิคเกิดสัญญาณกลับตัว ทั้งนี้ราคาทองคำทำจุดต่ำสุดใหม่เรื่อยๆตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา แต่เครื่องมือทางเทคนิคทั้ง RSI และ MACD กลับยกตัวขึ้น เกิดสัญญาณ Divergenceทั้งนี้ราคาทองคำมีแนวรับที่ 1,065 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 1,080 และ 1,090 ดอลลาร์ต่อออนซ์ตามลำดับ
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,050.00 | 44,150.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,251.48 | 44,650.00 |
วันนี้ 450 | -50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 10:35 น. | (ครั้งที่ 8) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวราคาน้ำมัน, ข่าวหุ้น, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง