ทองร่วงหนัก หลังเฟดขึ้นดอกเบี้ย ในประเทศบาทอ่อนทองลงได้ไม่มาก
โดยราคาทองคำร่วงกว่า 27 ดอลลาร์หลังธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำและหันไปซื้อสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า นอกจากนี้การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดยังส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นส่งผลให้ทองคำมีราคาแพง
ทองคำร่วงหนักแตะระดับต่ำสุด 1,047 ดอลลาร์ต่อออนซ์หลังจากได้รับแรงกดดันหลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน(FOMC) ของเฟดที่ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% อยู่ในช่วง 0.25-0.50% โดยเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2549 และเป็นการปิดฉากระยะเวลากว่า 7 ปีในมาตราการผ่อนคลายเชิงปริมาณ
ทั้งนี้ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และหันไปซื้อสินทรัพย์เสี่ยงซึ่งให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าอย่างตลาดหุ้น นอกจากนี้ การที่เฟดตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยยังหนุนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นและสร้างแรงกดดันต่อทองคำ โดยเมื่อเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นจะทำให้ทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น
ขณะที่รายงานจากกองทุน SPDR Gold Trust กองทุนทองคำรายใหญ่ของโลกว่า เมื่อวานนี้ทำการเทขายทองคำออกมา 4.46 ตัน หลังจากที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงปริมาณการถือครองทองคำติดต่อกัน 7 วัน ทำให้ในเดือนนี้กองทุน SPDR ขายทองคำออกมาทั้งสิ้น 24.6 ตัน จากที่เดือนก่อนหน้าที่ขายทองคำออกมาสูงถึง 37.4 ตัน
ส่วนประเด็นเศรษฐกิจที่สำคัญในวันนี้ ตลาดให้ความสนใจต่อการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ) ซึ่งเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายของปีนี้ ทั้งนี้ต้องติดตามว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นจะส่งสัญญาณผ่อนคลายมาตรการทางการเงินเพิ่มเติมหรือไม่ ซึ่งจะมีผลต่อทิศทางการเคลื่อนไหวของเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับเงินเยน หลังจากที่เฟดทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25%
ขณะที่รายงานเศรษฐกิจของสหรัฐในคืนวันนี้จะมีการายงาน ดัชนี PMIภาคบริการเดือนธันวาคม ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าตัวเลขดังกล่าวจะลดลงจากเดือนที่แล้ว
ทางด้านราคาทองในประเทศ เมื่อวานนี้เคลื่อนไหว 3 ครั้งโดยปรับขึ้น 2 ครั้งและลดลง 1 ครั้งและสรุปราคาตอนปิดตลาดพบราคาเพิ่มขึ้น 50 บาท ขณะที่เปิตดลาดทองในประเทศวันศุกร์สุดสัปดาห์พบว่า ทองลดลง 100 บาท ซึ่งเป็นผลมาจากทองคำตลาดโลกร่วงหนักหลังเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ตามพบว่าทองในประเทศลดลงได้น้อยกว่าปกติ เนื่องจากเงินบาททอ่อนค่าเป็นอย่างมากแตะระดับ 36.18 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งแนวโน้มยังมีทิศทางอ่อนค่า ซึ่งจะส่งผลเป็นแรงหนุนต่อทองในประเทศต่อไป
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำมีแนวรับระยะสั้นที่ 1,050 และ 1,046 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ทั้งนี้แรงเทขายทองคำจากกองทุน SPDRที่คาดลดน้อยลงจะช่วยพยุงราคาทองคำไม่ปรับลงทำจุดต่ำใหม่ในรอบปี ขณะที่มีแนวต้านที่ 1,07 0และ 1,080 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรงทะลุระดับ 2,700$
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 0 | 0 | |
23 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 09:00 น. | (ครั้งที่ 1) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง