ทองพุ่งขึ้นจากดอลลาร์อ่อนและการซื้อเก็งกำไร หลังทองร่วงหนัก
โดยราคาทองคำนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นหลังจากร่วงลงหนักเมื่อวันพฤหัสบดีหลังเฟดขึ้นดอกเบี้ย โดยทองคำได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง ประกอบกับนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไร หลังจากที่ราคาทองคำร่วงลงกว่า 27 ดอลลาร์แตะที่ระดับ 1,047 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำวันศุกร์สุดสัปดาห์ดีดตัวขึ้นกลับไปแตะรับ 1,065 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ เพราะโดยปกติแล้ว ทองและดอลลาร์จะเคลื่อนตัวในทิศทางตรงข้ามกัน ซึ่งหมายความว่าหากดอลลาร์ปรับตัวลง ราคาทองก็จะปรับตัวขึ้น เนื่องจากทองซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์ จะมีราคาถูกลงสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่นๆ และในทางกลับกันหากดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ทองคำก็จะปรับตัวลดลง เพราะราคาทองจะแพงขึ้นสำหรับผู้ที่ถือสกุลเงินอื่น
นอกจากนี้ นักลงทุนยังได้เข้าซื้อเก็งกำไร หลังจากที่ราคาทองได้ดิ่งลงกว่า 27 ดอลลาร์แตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปีที่ระดับ 1,047 ดอลลาร์ต่อออนซ์เมื่อวันพฤหัสบดี หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งล่าสุด ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และหันไปซื้อสินทรัพย์เสี่ยงซึ่งให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า นอกจากนี้ การประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดยังส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ซึ่งสร้างแรงกดดันให้กับตลาดทองคำด้วย
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์เชื่อว่า แนวโน้มในระยะยาวสำหรับทองคำนั้นยังอยู่ในช่วงขาลง เนื่องจากการขึ้นดอกเบี้ยในรอบเกือบ 10 ปีของเฟดจะผลักดันให้นักลงทุนเทขายทอง และหันไปซื้อสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า โดยแนวโน้มราคาทองคำต่อจากนี้คาดว่าทองคำได้ซึบซับปัจจัยลบเพิ่มเติมต่อจากการคาดการณ์ของตลาดว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งละ 0.25%เป็นจำนวน 4 ครั้งภายในปี 2559 ตามที่ผู้กำหนดนโยบายของเฟดระบุเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมานี้หลังเสร็จสิ้นการประชุมเฟด
ภาพรวมราคาทองคำสัปดาห์นี้พบราคาทองร่วงลงมากที่สุดรอบ 5 เดือน โดยราคาดิ่งลง 2% ในสัปดาห์นี้ และเป็นการร่วงลงมากที่สุดเมื่อเทียบรายสัปดาห์ในรอบ 6 สัปดาห์ เนื่องมาจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ
ทางด้านราคาทองในประเทศ วันเสาร์สมาคมค้าทองคำประกาศราคาทองปรับขึ้น 100 บาท โดยเป็นผลมาจากทองคำตลาดโลกฟื้นตัวขึ้น ส่วนภาพรวมตลอดทั้งสัปดาห์พบว่า ลดลง 150 บาท โดยจะพบว่าทองคำในประเทศลดลงได้น้อยกว่าทองคำตลาดโลกเนื่องมาจากการอ่อนค่าของเงินบาทเป็นแรงหนุนสำคัญ
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำทางเทคนิคอยู่ยังในช่วงขาลง แต่มีโอกาสฟื้นตัวทางเทคนิคได้ในช่วงสั้น คาดว่าในระยะสั้นราคาทองคำจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,047-1,065 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองคำมีแนวรับสำคัญระยะสั้นที่ 1,047 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากว่าราคาทองคำหลุดจากแนวรับดังกล่าวจะมีแนวรับถัดไปที่ระดับ 1,025 และ 1,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ตามลำดับ ขณะที่มีแนวต้านระยะสั้นที่ 1,065 และ 1,080 ดอลลาร์ต่อออนซ์ตามลำดับ
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,050.00 | 44,150.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,251.48 | 44,650.00 |
วันนี้ 450 | -50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 10:35 น. | (ครั้งที่ 8) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง