แฉ “โปรแกรมเทรดดิ้ง” พ่นพิษ! เคาะอัตโนมัติผสมหุ้นตกทำหุ้นไทยกู่ไม่กลับ
โดยผู้สื่อข่าวรายงานจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถึงกรณีที่ดัชนีหุ้นไทยได้ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา และโดยเฉพาะล่าสุด วานนี้ (ศุกร์ที่ 22 มี.ค.56) ที่ปรับลดไปถึง 60 จุดนั้นว่า นอกจากจะเกิดจากความวิตกกับกรณีการแข็งค่าของเงินบาทที่อาจทำให้ทางการออกมาตรการสกัดกั้นการแข็งค่าของเงินบาทแล้ว ยังกังวลกับข่าวลือการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี จากกรณีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.รับกรณีปล่อยเงินกู้ 30 ล้านบาทให้สามี รวมทั้งวิตกกับ พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนฯสัปดาห์หน้า
นอกจากนี้ ประเด็นที่เข้ามาซ้ำเติมตลาดให้ปรับตัวลงอย่างหนัก คือ การถูกบังคับขาย (Force Sale) ของนักลงทุนที่ใช้บัญชีมาร์จิ้นเพื่อซื้อหลักทรัพย์ หลังราคาหุ้นปรับตัวลงมาถึงระดับที่ต้องโดนบังคับขายเพื่อตัดความเสียหายของนักลงทุนและบริษัทหลักทรัพย์ นอกจากนี้ ยังโดนแรงขายจากโปรแกรมเทรดของนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ที่ตั้งโปรแกรมกำหนดให้ขายหุ้นออกมาอัตโนมัติหากดัชนีปรับลงมาถึงระดับที่กำหนดไว้ โดยเป็นการขายออกมาทุกระดับราคายิ่งกดให้ดัชนีหุ้นไหลรูดลงอย่างรุนแรง
นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท หลักทรัพย์เครดิตลียองเนส์ (CLSA) (ประเทศไทย) กล่าวว่า การสร้างโปรแกรมเทรดดิ้งเพื่อกำหนดราคาซื้อและขายด้วยระบบคอมพิวเตอร์อาจมีส่วนทำให้ตลาดที่กำลังหวาดวิตก (Panic) ผันผวนมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีนักลงทุนหลายกลุ่มใช้โปรแกรมเทรดดิ้งมากขึ้น เทียบกับอดีตจะใช้โปรแกรมเทรดแค่ 2-3%ของมูลค่าซื้อขายเท่านั้น แต่ปัจจุบันเพิ่มขึ้นมา 15-20% อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวยังเห็นว่าตลาดที่ผันผวนทำให้นักลงทุนตื่นตระหนกขายหุ้นออกมามากว่า เพราะหุ้นที่โดนเทขายปรับตัวหนักๆ เป็นหุ้นกลางและเล็กที่ก่อนหน้านี้ราคาปรับขึ้นมาร้อนแรง อย่างไรก็ตาม การปรับฐานของหุ้นไทยครั้งนี้นักลงทุนต่างชาติก็แปลกใจ เพราะไม่คิดว่าจะปรับฐานแรงขนาดนี้ จึงมีต่างชาติบางส่วนกลับเข้ามาซื้อแต่ไม่มากและไม่เร่งรีบซื้อ
นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ กล่าวว่า การปล่อยมาร์จิ้นในระบบปัจจุบันมีมูลค่า 50,000 ล้านบาท ถือว่าลดลงมากเมื่อเทียบกับอดีตเป็นหลักแสนล้าน ซึ่งราคาหุ้นที่ปรับตัวลงแรงในสัปดาห์นี้ อาจมีนักลงทุนบางส่วนถูกบังคับขายแต่คงไม่มาก เพราะมาร์จิ้นที่ปล่อยส่วนใหญ่เป็นหุ้นขนาดใหญ่และกลาง แต่หุ้นที่ลงแรงเป็นหุ้นกลางและเล็กไม่น่าเป็นสาเหตุทำให้ตลาดปรับตัวลงแรง ส่วนโปรแกรมเทรดดิ้งที่ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวไหลลงแรงในบางช่วงนั้น อาจทำให้นักลงทุนตกใจ และเร่งเทขายหุ้นตามเพราะกลัวขายไม่ทัน
ขณะที่นายศุภกิจ จิระประดิษฐกุล รองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ กล่าวว่า จากการสอบถามข้อมูลไปยังโบรกเกอร์ ไม่พบมีรายงานการบังคับขายหุ้น เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่ชิงเทขายหุ้นออกมาก่อน ทั้งหุ้นในส่วนที่ยังมีกำไร และการขายเพื่อหยุดหรือตัดผลขาดทุน โดยไม่ได้รอจนถึงขั้นที่ถูกบังคับขาย.
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ดอลลาร์แข็งค่า-พันธบัตรสหรัฐพุ่ง ฉุดทองคำโลกทองไทยร่วงลงหนัก
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 43,600.00 | 43,700.00 |
ทองรูปพรรณ | 42,811.84 | 44,200.00 |
วันนี้ 600 | 50 | |
21 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 15:38 น. | (ครั้งที่ 7) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวหุ้น, ข่าวเศรษฐกิจ