ทองโลกพุ่ง หลังหุ้นร่วงจากน้ำมันดิ่ง ในประเทศบาทแข็งทองขึ้นน้อย
โดยราคาทองปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 1,110 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในเช้านี้ เนื่องจากนักลงทุนเข้าถือครองทองคำในฐานะเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากการร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐ อันเนื่องมาจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงหลังจากมีรายงานว่าอิรักผลิตน้ำมันสูงสุดเป็นประวัติการณ์
การเข้าซื่้อทองคำของนักลงทุนกันอย่างคึกคักส่งผลเป็นปัจจัยหนุนต่อการพุ่งขึ้นของราคาทองคำ หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมาร่วงลงไปกว่า 200 จุด เนื่องจากตลาดได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงและได้ฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงด้วย
ทั้งนี้ สาเหตุที่ทำให้ราคาน้ำมันร่วงลงนั้น มาจากรายงานที่ว่า การผลิตน้ำมันของอิรักพุ่งขึ้นเป็นประวัติการณ์ในเดือนธันวาคม หลังจากที่บ่อน้ำมันในภูมิภาคตอนกลางและใต้ของประเทศให้ผลผลิตน้ำมันสูงถึง 4.13 ล้านบาร์เรล/วัน
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า โอกาสที่โอเปกจะจัดการประชุมฉุกเฉินเพื่อหาทางกระตุ้นราคาน้ำมันที่กำลังตกต่ำในขณะนี้ มีความเป็นไปได้น้อยมาก เนื่องจากมีสมาชิกโอเปกเพียง 1 ประเทศเท่านั้นที่สนับสนุนให้มีการจัดการประชุมดังกล่าว
ส่วนในวันนี้ นักลงทุนต่างจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ซึ่งเริ่มต้นขึ้นในวันนี้และจะเสร็จสิ้นในวันพรุ่งนี้ตามเวลาสหรัฐ ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ และอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมีนาคม
ขณะที่รายงานเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในคืนวันนี้ จะมีการเปิดเผยดัชนีราคาบ้าน 20 เมืองใหญ่เดือนพฤศจิกายน, ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนธันวาคม และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมกราคม ของ Conference Board
ทางด้านราคาทองคำในประเทศ เมื่อวานนี้ทองคำเคลื่อนไหวผันผวนรวม 5 ครั้ง โดยเปิดตลาดราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันเสาร์ หลังจากเป็นการปรับขึ้น 3 ครั้งและลดลง 1 ครั้ง สรุปราคาตอนปิดตลาดพบว่า ปรับขึ้น 100 บาท ขณะที่เปิดตลาดทองในประเทศเช้าวันอังคาร พบว่าทองปรับขึ้น 50 บาท ซึ่งเป็นผลมาจากทองคำตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม จะเห็นว่าทองในประเทศปรับขึ้นได้น้อยกว่าปกติเนื่องมาจากเงินบาทเริ่มแข็งค่าขึ้นมาตั้งแต่เมื่อวาน โดยเช้านี้เงินบาทแข็งค่าอยู่ที่ระดับ 35.97 บาทต่อดอลลาร์
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่วว่า แนวโน้มราคาทองคำทางเทคนิค มีแนวต้านแข็งแกร่งที่ระดับ 1,110 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ถ้าผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้ จะมีแนวต้านถัดไปที่ระดับ 1,122 และ 1,130 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่มีแนวรับระยะสั้นที่ 1,095 และ 1,085-1,090 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 550 | 50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 17:09 น. | (ครั้งที่ 14) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวราคาน้ำมัน, ข่าวหุ้น, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง