ทองพุ่ง ดอลลาร์อ่อนกังวลเศรษกิจสหรัฐ ในประเทศบาทแข็งทองขึ้นน้อย
โดย
ราคาทองคำพุ่งขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา เนื่องจากเพราะได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ อันเนื่องมาจากรายงานเศรษฐกิจภาคการผลิตที่อ่อนแอของสหรัฐ รวมทั้งความเห็นของ รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ที่แสดงความกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ
ทองคำได้รับปัจจัยบวกหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากรายงานเศรษฐกิจสหรัฐแสดงถึงความอ่อนแอ โดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตในเดือนมกราคม อยู่ที่ระดับ 48.2 ทั้งนี้ แม้ว่าดัชนี PMI จะขยับขึ้นจากเดือนธันวามคม แต่ดัชนี PMI ยังอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตยังคงอยู่ในภาวะหดตัว อันเนื่องมาจากผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอ และการแข็งค่าของดอลลาร์
นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้รับปัจจัยหนุนในฐานะเป็นสินทรัยพ์ที่ปลอดภัย หลังจาก นายสแตนลีย์ ฟิสเชอร์ รองประธานเฟด กล่าวเมื่อวานนี้ว่า ความปั่นป่วนของตลาดการเงินทั่วโลกในช่วงที่ผ่านมาอาจจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ โดย นายฟิสเชอร์ยังกล่าวด้วยว่า หากสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ภาวะทางการเงินตึงตัวต่อเนื่อง ก็อาจจะส่งสัญญาณถึงเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวและเงินเฟ้อในสหรัฐ
ซึ่งจากความเห็นของนายฟิสเชอร์ ดังกล่าวทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่า เฟดอาจจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้อย่างรวดเร็วตามที่คาดการณ์ไว้ในปีนี้
ส่วนประเด็นเศรษฐกิจสำคัญที่นักลงทุนให้ความสนใจเฝ้าติดตามได้แก่ ข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐประจำเดือนมกราคม ประกอบด้วย ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนของ ADP ที่จะประกาศในวันพุธ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ในวันพฤหัสบดี และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่จะประกาศในวันศุกร์ โดยคาดว่ารายงานข้อมูลภาคแรงงานเหล่านี้จะส่งผลต่อทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาทองคำผ่านค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ
ทางด้านราคาทองในประเทศ เมื่อวานนี้ทองเคลื่อนไหวตอนเปิดตลาดปรับขึ้น 50 บาทเพียงครั้งเดียว โดยมีเงินบาทที่ยังแข็งค่าต่อเนื่องเป็นปัจจัยลบกดดันให้ราคาปรับขึ้นได้ไม่มาก ต่อเนื่องเปิดตลาดทองในประเทศเช้าวันอังคาร ทองปรับขึ้นอีก 50 บาท ซึ่งจะเห็นว่าทองปรับขึ้นไม่มากเท่าตลาดโลกเนื่องจากขณะนี้เงินบาทแข็งค่าระหว่าง 35.50-35.70 บาทต่อดอลลาร์
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าว่า ระยะสั้นราคาทองคำมีแนวต้านแข็งแกร่งที่ 1,130 ดอลลาร์ต่อออนซ์เนื่องจากเป็นแนวต้านของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน แต่ถ้าผ่านขึ้นไปได้จะเป็นสัญญาณบวกต่อราคาทองคำในระยะกลาง ซึ่งจะมีแนวต้านถัดไปที่ 1,140 และ 1,150 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่มีแนวรับระยะสั้นที่ 1,115 และ 1,106 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ดอลลาร์แข็ง-แรงขายฉุดทองคําโลกร่วงต่อ ทองไทยบาทอ่อนช่วยหนุน
แรงเทขายทำกำไรฉุดทองคําโลก-ไทยร่วงหนัก กลับมาเท่าต้นสัปดาห์
แรงขายทำกำไรฉุดทองคําโลกร่วงหนัก ทองไทยบาทแข็งร่วมกดดันลงแรง
ทองคำโลก-ไทยพุ่งนิวไฮแรง หลังทรัมป์ประกาศภาษีตอบโต้ทั่วโลก
แรงขายฉุดทองคําลดลงระยะสั้น แนวโน้มยังสดใส ทองไทยบาทอ่อนหนุน
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุทองคําโลก-ไทยพุ่งแรงนิวไฮต่อเนื่อง
ทองคําขึ้นนิวไฮต่อเนื่อง จับตามาตราการภาษีสหรัฐหนุนแรงซื้อ
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 49,600.00 | 49,700.00 |
ทองรูปพรรณ | 48,709.08 | 50,500.00 |
วันนี้ 0 | 50 | |
07 เมษายน 2568 | เวลา 13:41 น. | (ครั้งที่ 15) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง