ทองขึ้นจากดอลลาร์อ่อนหลังเศรษฐกิจสหรัฐอ่อนแอ ในประเทศบาทแข็งทองขึ้นน้อย
โดย
ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแรงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอทั้งดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI) ภาคการผลิตที่หดตัวลงครั้งแรกในรอบ 2 ปี และยอดขายบ้านใหม่ที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน
ตลาดทองคำยังคงคึกคักจากนักลงทุนที่กลับเข้ามาลงทุนในตลาดสินทรัพย์ที่ปลอดภัยหลังจากมีข้อมูลเศรษฐกิจที่บ่งชี้ถึงความอ่อนแอ ล่าสุดมีการเปิดเผยรายงานเศรษฐกิจสหรัฐที่ย่ำแย่ เมื่อคืนที่ผ่านมา ทั้ง ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้นสำหรับภาคบริการของสหรัฐในเดือนกุมภาพันธ์ที่ชะลอตัวลงสู่ระดับ 49.8 ซึ่งบ่งชี้ภาวะหดตัวของดัชนีPMI เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี นอกจากนี้ยังมี ตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ประจำเดือนมกราคมของสหรัฐที่ร่วงลง 9.2% สู่ระดับ 494,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือนนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2015
ขณะที่ปัจจัยบวกหนุนตลาดทองคำซึ่งในเชิงจิตวิทยาถือทองคำมีอนาคตค่อนข้างสดใส มาจากกองทุน SPDR Gold Trust ที่ล่าสุดได้เพิ่มปริมาณการถือครองทองคำอีก 8.03 ตัน หลังจากที่กองทุนเข้าซื้อทองในปริมาณที่สูงถึงวันละ 19.33 ตัน ก่อนหน้านี้ และโดยเฉพาะในปีนี้กองทุนเพิ่มปริมาณการถือครองทองคำรวมแล้ว 117 ตัน หลังจากปีที่แล้วกองทุน SPDR ลดปริมาณการถือครองทองคำ 67 ตัน
ส่วนประเด็นเศรษฐกิจของสหรัฐที่สำคัญในคืนวันนี้ จะมีการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานจะเพิ่มขึ้น รวมถึงยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมกราคม ส่วนในคืนวันพรุ่งนี้ซึ่งเป็นคืนสุดท้ายในการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐประจำสัปดาห์ จะมีการเปิดตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญที่ตลาดให้ความสนใจอย่าง ตัวเลขประมาณการจีดีพีครั้งที่ 2 ประจำไตรมาส 4/2558
ทางด้านราคาทองคำในประเทศ เมื่อวานนี้ทองในประเทศเคลื่อนไหวผันผวน 6 ครั้งและเป็นวันที่ 2 ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ โดยปิดตลาดราคาเพิ่มขึ้น 200 บาท ต่อเนื่องเปิดตลาดทองเช้าวันพฤหัสบดี ทองปรับขึ้นอีก 50 บาท โดยเป็นผลมาจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของทองคำตลาดต่างประเทศ ขณะที่ปัจจัยค่าเงินบาทเช้านี้พบการแแข็งค่าขึ้นกว่าเมื่อวาน ส่งผลให้ในวันนี้ทองคำในประเทศจะได้รับแรงหนุนจากค่าเงินบาทน้อยกว่าปกติ
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำคาดมีแรงเทขายทำกำไรระยะสั้น แต่การปรับตัวลงมีกรอบจำกัด โดยมีแนวรับที่ 1,220 และ 1,207 ดอลลาร์ต่อออนซ์ตามลำดับ ดังนั้นการปรับตัวลงยังน่าสนใจในการเข้าซื้อ ขณะที่มีแนวต้านที่ 1,250 และ 1,262 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ
สงครามการค้าสหรัฐ-จีนทวีความรุนแรง หนุนแรงซื้อทองคําพุ่งขึ้น
ดอลลาร์แข็ง-แรงขายทางเทคนิคฉุดทองคําตลาดโลก-ไทยร่วงต่อเนื่อง
แรงขายฉุดทองคําโลก-ไทยร่วงหนัก เพื่อเข้าซื้อสกุลเงินปลอดภัย
ดอลลาร์แข็ง-แรงขายฉุดทองคําโลกร่วงต่อ ทองไทยบาทอ่อนช่วยหนุน
แรงเทขายทำกำไรฉุดทองคําโลก-ไทยร่วงหนัก กลับมาเท่าต้นสัปดาห์
แรงขายทำกำไรฉุดทองคําโลกร่วงหนัก ทองไทยบาทแข็งร่วมกดดันลงแรง
ทองคำโลก-ไทยพุ่งนิวไฮแรง หลังทรัมป์ประกาศภาษีตอบโต้ทั่วโลก
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 50,300.00 | 50,400.00 |
ทองรูปพรรณ | 49,391.28 | 51,200.00 |
วันนี้ 550 | 50 | |
10 เมษายน 2568 | เวลา 16:48 น. | (ครั้งที่ 1) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง