ทองโลกลดลงจากดอลลาร์แข็ง ในประเทศบาทแข็งร่วมส่งทองร่วง
โดยราคาทองคำเช้านี้ปรับตัวลดลงแตะที่ระดับ 1,254 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ประกอบกับการที่นักลงทุนยังคงเทขายทำกำไร หลังจากก่อนหน้านี้ราคาปรับตัวขึ้นมามาก นอกจากนี้จากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจการค้าที่ย่ำแย่ของจีนยังส่งผลให้ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างซบเซา
ทองคำยังคงได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไร หลังจากทองคำพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงก่อนหน้านี้ อันเนื่องมาจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐหลังจากมีข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่บ่งชี้ถึงความอ่อนแอ และส่งผลนำมาซึ่งการคาดการณ์ของตลาดที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) อาจจะไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายในตลาดทองคำยังได้รับปัจจัยลบจากข้อมูลการค้าที่ย่ำแย่ของจีน หลังจากสำนักงานศุลกากรจีน รายงานว่า ยอดส่งออกเดือนกุมภาพันธ์ ร่วงลง 20.6% เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 8.218 แสนล้านหยวน หรือ 1.263 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ยอดการนำเข้าลดลง 8% สู่ระดับ 6.123 แสนล้านหยวน
ขณะที่ยอดเกินดุลการค้าต่างประเทศในเดือนกุมภาพันธ์ ร่วงลง 43.3% เทียบรายปี สู่ระดับ 2.095 แสนล้านหยวน จากเดือนม.ค.ที่ระดับ 4.063 แสนล้านหยวน
ทางด้านปัจจัยหนุนต่อทองคำก่อนหน้านี้อย่างกองทุน SPDR ที่เข้าซื้อทองคำต่อเนื่่อง ซึ่งล่าสุดได้สร้างแรงกดดันต่อตลาดทองคำเมื่อ กองทุน SPDR Gold Trust เริ่มลดปริมาณการถือครองทองคำลงเมื่อวานนี้ 2.38 ตัน อย่างไรก็ดี กองทุน SPDR ยังคงถือครองทองคำเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 2557 โดยปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำ 790.74 ตัน
ส่วนในคืนวันนี้สหรัฐไม่มีรายงานเศรษฐกิจที่สำคัญ โดยประเด็นสำคัญที่ตลาดให้ความสนใจอยู่ที่การประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB) ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งตลาดมีการคาดการณ์ว่า ECB จะมีการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม โดยอาจทำการเพิ่มวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) หรือมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งในกรณีที่หากธนาคารกลางยุโรปผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมคาดว่าจะส่งผลลบต่อราคาทองคำ ผ่านการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับเงินยูโร และอาจมีแรงเก็งกำไรในตลาดหุ้นกลับเข้ามา
ทางด้านราคาทองในประเทศ เมื่อวานนี้เคลื่อนไหวรวม 4 ครั้งโดยเป็นการปรับขึ้น 3 ครั้งและลดลง 1 ครั้งสรุปราคาพบว่าเพิ่มขึ้น 100 บาท ขณะที่เปิดตลาดในเช้าวันพุธ ทองร่วงพรวดเดียว 300 บาท ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับตัวลดลงของทองคำตลาดโลก รวมถึงการแข็งค่าของเงินบาทในเช้านี้แตะที่ระดับ 35.37 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวสวนทางกับภูมิภาค เนื่องจากมีเงินทุนไหลเข้ามาในตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรในเทย
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำคาดปรับตัวลงต่อ หลังจากไม่สามารถผ่านแนวต้านที่ 1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ โดยมีแนวรับระยะสั้นที่ 1,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ถ้าหลุดแนวรับดังกล่าวจะมีแนวรับถัดไปที่ 1,240 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ดียังมองว่าการปรับตัวลงของราคาทองคำยังน่าสนใจซื้อเก็งกำไรระยะสั้น ขณะที่แนวต้านระยะสั้นอยู่ที่ 1,273 และ 1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 550 | 50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 17:09 น. | (ครั้งที่ 14) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง