BREXIT Effect! ทองขึ้นไม่หยุด ในประเทศบาทยังอ่อนหนุนทองพุ่ง
โดยราคาทองคำทะยานขึ้นต่อเนื่องจากวันศุกร์ที่ราคาผันผวนตลาดทั้งวัน หลังจากผลการลงประชามติของชาวอังกฤษที่ขอแยกตัวออกกจากสหภาพยุโรปสำเร็จ(BREXIT) ประเด็นดังกล่าวนำมาซึ่งความปั่นป่วนต่อทั้งตลาดเงิน ตลาดทุนจากทั่วโลก โดยเฉพาะเงินปอนด์ดิ่งลงต่ำสุดในรอบ 31 ปี
ผลการลงประชามติของชาวอังกฤษคะแนนของฝ่ายขอแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป(อียู)ชนะ ส่งผลทำให้ตลาดการเงินทั่วโลกปั่นผ่วน เงินปอนด์อ่อนค่าลงกว่า 10% ซึ่งอ่อนค่ามากที่สุดนับตั้งแต่ปี 1985 หรือรอบ 31 ปี ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงแรง 3-5% ส่วนตลาดหุ้นยุโรป ไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้นลอนดอน ตลาดหุ้นเยอรมันปรับลงแรง 8-9%ท่ามกลางความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นทำให้เม็ดเงินต่างไหลเข้าสินทรัพย์ปลอดภัยไม่ว่าจะเป็นเงินดอลลาร์ เงินเยน เงินสวิสก์ฟังก์ รวมถึงทองคำ
โดยราคาทองคำตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรงกว่า 8% โดยพุ่งทะยานแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปีที่ระดับ 1,357 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นอกจากนี้ในวันศุกร์วันเดียวกองทุน SPDR Gold Trust กองทุน ETF ทองคำรายใหญ่ของโลกได้เข้าซื้อทองคำถึง 18.4 ตัน และเป็นการเข้าซื้อทองต่อเนื่องของกองทุน SPDR เป็นสัปดาห์ที่ 4 รวมทั้งสิ้น 26.4 ตัน
นักวิเคราะห์มองว่า การเข้าซื้อทองคำส่วนใหญ่มาจากนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ของสหรัฐอเมริกาและยุโรป ที่มีความต้องการทองคำสูงและเข้าซื้อทองในช่วงที่เกิดความไม่แน่นอนหลายครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากพฤติกรรมการลงทุนทองคำของนักลงทุนต่างประเทศคือ การกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงอย่่างตลาดหุ้น นอกจากการเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไร
ทางด้านราคาทองคำในประเทศ วันศุกร์วันเดียวทองผันผวนขึ้นลง 31 ครั้งเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่มีการประกาศราคาทองและสรุปทั้งวันราคาปรับขึ้น 900 บาท ซึ่งในช่วงแรกเปิดตลาดราคาพุ่งทะยานติดต่อกัน 9 ครั้งรวมราคา 1,350 บาท โดยได้รับอานิสงส์จากทั้งทองคำโลกที่พุ่งทะยานขึ้นบวกกับเงินบาทที่อ่อนค่า ขณะที่เปิดตลาดทองวันจันทร์ ทองปรับขึ้นอีก 250 บาท จากวันเสาร์ที่ประกาศราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันศุกร์ที่ผันผวนอย่างหนัก ส่วนแนวโน้มทองในประเทศยังมีโอกาสปรับขึ้นได้ต่อจากเงินบาทที่มีทิศทางอ่อนค่ารวมถึงทองคำตลาดโลกที่ยังมีแรงหนุนจากประเด็น BREXIT
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า เหตุการณ์ที่ไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นหลัง Brexit จะทำให้มีแรงซื้อกลับเข้ามา ถึงแม้ว่าทองคำอาจเผชิญกับแรงเทขายทำกำไรทองคำ โดยมีแนวรับหลักที่ 1,300 ดอลลาร์เนื่องจากเป็นแนวต้านที่แข็งแกร่งมาก่อน ส่วนแนวต้านระยะสั้นที่ 1,340 และ 1,350 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ โดยมีแนวต้านหลักที่ 1,357 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรงทะลุระดับ 2,700$
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 0 | 0 | |
23 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 09:00 น. | (ครั้งที่ 1) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวราคาน้ำมัน, ข่าวหุ้น, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง