ราคาทองคําวันนี้

ราคทองคำร่วงลงแรงกว่า 23 ดอลลาร์ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนก.ค. ที่ออกมาแข็งแกร่งเกิดคาด ซึ่งจากข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นกดดันให้นักลงทุนเทขายทองคำเนื่องจากทองคำที่ซื้อขายด้วยเงินดอลลาร์ มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจ

ราคาทองคำได้รับแรงกดดันหลังจากที่กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนกรกฎาคม พุ่งขึ้น 255,000 ตำแหน่ง ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 180,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.9%

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าข้อมูลภาคแรงงานของสหรัฐที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจะเป็นข้อมูลสำคัญที่ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้

นอกจากนี้ นักลงทุนยังมองว่าการที่ตัวเลขการขาดดุลการค้าของสหรัฐเพิ่มขึ้น 8.7% ในเดือนมิ.ย. สู่ระดับ 4.45 หมื่นล้านดอลลาร์ แสดงให้เห็นว่าอุปสงค์ปรับตัวสูงขึ้น อันเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่งกว่าเดิม และข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนเทขายทองคำในฐานะเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยและหันกลับไปหาตลาดสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า

ทางด้านราคาทองในประเทศ เปิดตลาดวันเสาร์ราคาร่วงลงพรวดเดียว 250 บาท หลังจากเมื่อวานนี้ราคาปรับขึ้น 100 บาท โดยทองในประเทศร่วงแรงในทิศทางเดียวกับทองคำโลก หลังจากรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหร้ฐออกมาแข็งแกร่งเกินคาด นอกจากนี้ประเด็นดังกล่าวยังส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยกดดันต่อทองคำ อย่างไรก็ดี จะเห็นว่าหากเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นจะทำให้เงินบาทอ่อนค่าลงและจะส่งผลเป็นปัจจัยบวกต่อทองในประเทศให้ราคาปรับลดลงได้ไม่มาก

บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำในทางเทคนิค ระยะสั้นคาดว่าราคาทองจะมีแนวรับที่ 1,350-1,345 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนวต้านที่ 1,370-1,375 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ด้านกลุ่มบริษัท วายแอลจี(YLG) คาดการณ์แนวโน้มราคาทองคำทางเทคนิค จะแนวรับที่ระดับราคา 1,346-1,338 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับได้ราคามีโอกาสขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ระดับราคา 1,367 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากผ่านไปได้จะมีแนวต้านต่อไปที่ระดับ 1,375 ดอลลาร์ต่อออนซ์