ทองร่วงต่อ!นโยบายทรัมป์หนุนตลาดทุน ในประเทศบาทอ่อนสกัดทองลง
โดยราคาทองคำร่วงลงต่อเนื่อง หลังจากชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐของนายโดนัลด์ ทรัมป์ได้หนุนตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นติดต่อกัน 2 วันทำการ นอกจากนี้ปัจจัยดังกล่าวยังส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นกดดันต่อตลาดทองคำ ส่วนในประเทศวันศุกร์เปิดตลาดร่วงแรง
ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้นพุ่งทะยานต่อเนื่องกดดันให้นักลงทุนเทขายโลหะมีค่าอย่างทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยจนราคาร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์ที่บริเวณ 1,252 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นับตั้งแต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ โดยปัจจัยที่ทำให้ตลาดการเงินขานรับชัยชนะของนายทรัมป์ มาจากความคาดหวังที่ว่า ทรัมป์จะดำเนินนโยบายต่างๆที่ได้ให้คำมั่นไว้ในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งรวมถึงผ่อนคลายกฎข้อบังคับของภาคธนาคาร, ทำการปรับลดภาษีของภาคธุรกิจ และกระตุ้นการใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภค
นอกจากนี้ การคาดการณ์ที่ว่านายทรัมป์ จะกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่นั้น ยังส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ซึ่งปัจจัยดังกล่าวได้สร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำด้วย ทั้งนี้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดอลลาร์จะยังคงปรับตัวแข็งแกร่ง จนถึงช่วงเวลาที่นายทรัมป์ทำพิธีสาบานตนเป็นประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนม.ค.ปีหน้า โดยเงินดอลลาร์อาจแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 107.49 เยน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.ที่ผ่านมา
ส่วนรายงานเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในช่วงคืนวันนี้ จะมีการประกาศตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย.ของมหาวิทยาลัยมิชิแกน ซึ่งตัวเลขคาดกาณณ์จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้า นอกจากนี้จะมีการแถลงของนายสแตนลีย์ ฟิชเชอร์ รองประธานเฟด ซึ่งถือว่าเป็นเจ้าหน้าที่เฟดท่านแรกที่ให้ความเห็นหลังทราบผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ คาดว่าเฟดยังมีท่าทีจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. ไม่เปลี่ยนแปลง ถึงแม้ว่าจะมีมุมมองว่าโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.ลดลง หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ ทั้งนี้เมื่อดูข้อมูลผลสำรวจล่าสุดจาก CMEGroup FedWatch โอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. ยังสูงถึง 71%
ทางด้านราคาทองในประเทศ เปิดตลาดวันศุกร์ราคาร่วงแรง 300 บาท ต่อเนื่องจากเมื่อวานที่ราคาปรับลดลง 100 บาท เนื่องมาจากทองคำตลาดโลกร่วงลงปริมาณมากจากปัจจัยที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น ขณะที่เงินบาทเช้าวันนี้ยังมีแนวโน้มอ่อนค่าต่อเนื่องส่งผลให้เป็นปัจจัยบวกหนุนพยุงให้ราคาทองในประเทศไม่ลดลงได้มากเท่าทองคำตลาดโลก
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำทางเทคนิคไม่สดใส หลังจาก MACD กลับมาต่ำกว่า 0 ทำให้แนวโน้มราคาทองคำทางด้านเทคนิคมีโอกาสปรับลงสู่แนวรับ 1,240 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ที่เป็นจุดต่ำสุดที่ทำไว้ในเดือนต.ค. ระยะสั้นราคาทองคำมีแนวรับที่ 1,250 และ 1,240 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ขณะที่มีแนวต้าน 1,270และ 1,280ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรงทะลุระดับ 2,700$
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 0 | 0 | |
23 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 09:00 น. | (ครั้งที่ 1) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวหุ้น, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง