ทองโลกร่วงแรงจากเงินดอลลาร์แข็ง ในประเทศบาทอ่อนทองลงไม่เท่า
โดยราคาทองคำร่วงลงหนักเมื่อคืนที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำภายหลังจากที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น อันเนื่องมาจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ส่วนเปิดตลาดทองในประเทศวันพฤหัสบดีต้นเดือนธันวาคม ร่วงพรวด 250 บาท แตะระดับ 19,800 บาท
ราคาทองคำร่วงลงกว่า 17 ดอลลาร์แตะที่ระดับ 1,173 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ที่พุ่งขึ้น 0.53% แตะที่ระดับ 101.52 โดยการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์นั้นส่งผลให้ราคาทองคำมีราคาที่แพงขึ้นและไม่ดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ
ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้สกุลดอลลาร์แข็งค่านั้นมาจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล(PCE) เดือนต.ค. ปรับตัวขึ้น 0.2% ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ให้ความสำคัญ ขยับขึ้น 0.1% ในเดือนต.ค.
นอกจากนี้ ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐที่ออกมาแข็งแกร่งยังส่งผลเป็นอีกหนึ่งแรงกดดันให้ราคาทองคำร่วงลงดังกล่าว โดยตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐที่รายงานโดย ADP ประจำเดือนพ.ย. พุ่งขึ้น 216,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. ที่ผ่านมา และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 165,000 ตำแหน่ง
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยสนับสนุนต่อการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ จากการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน(โอเปก) ที่มีข้อตกลงลดกำลังการผลิตลง 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยเป็นไปตามกรอบข้อตกลงในการประชุมที่กรุงอัลเจียร์ส ประเทศแอลจีเรียในเดือนก.ย. และทำให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX พุ่งขึ้นเกือบ 10%
ส่วนรายงานเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในช่วงคืนวันนี้ จะมีการประกาศตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์และดัชนี PMIภาคการผลิตเดือนพ.ย. ทั้งนี้นักลงทุนต่างให้ความสนใจเฝ้าติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่จะประกาศออกมาในวันศุกร์ เนื่องจากตัวเลขการจ้างงานดังกล่าวจะนำมาซึ่งเหตุปัจจัยสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ หากตัวเลขจ้างงานดังกล่าวออกมาแข็งแกร่ง
ทางด้านราคาทองในประเทศเปิดตลาดวันพฤหัสบดีราคาร่วงพรวด 250 บาท โดยเป็นผลมาจากการที่ทองคำตลาดโลกร่วงลงเนื่องมาจากปัจจัยที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น อย่างไรก็ดีจะเห็นว่าทองในประเทศปรับลดลงได้ไม่มากเท่าทองคำตลาดโลกเนื่องมาจากเงินบาทที่อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 35.76 บาทต่อดอลลาร์
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า ราคาทองคำมีแนวรับหลักสำคัญ 1,170 ดอลลาร์ต่อออนซ์ซึ่งเป็นแนวรับของเส้น Fibonacci Retracement 38.2% ทำให้คาดจะเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาและมีโอกาสฟื้นตัว แต่ถ้าหลุดแนวรับดังกล่าวจะมีแนวโน้มปรับลงไปที่ 1,150 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่มีแนวต้านระยะสั้นที่ 1,180 และ 1,190 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ และแนวต้านสำคัญที่ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 550 | 50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 17:09 น. | (ครั้งที่ 14) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวราคาน้ำมัน, ข่าวหุ้น, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง