ทองโลกร่วง! หลังดอลลาร์แข็ง ในประเทศเปิดตลาดศุกร์เช้าลงตาม
โดยราคาทองคำปรับตัวลดลง เนื่องมาจากได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบสกุลเงินยูโร หลังจากธนาคารกลางยุโรป(ECB) ที่มีมติขยายระยะเวลาในการซื้อพันธบัตรออกไปอีก 9 เดือน ในการประชุมเมื่อวานนี้ ส่วนในประเทศเปิดตลาดวันศุกร์ร่วงลง 100
ตลาดทองคำกลับมาได้รับแรงกดดันเนื่องมาจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยเมื่อสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นจะส่งผลให้ทองคำที่ถูกกำหนดให้ซื้อขายกันด้วยสกุลเงินดอลลาร์มีราคาแพงขึ้นและไม่ดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ
ทั้งนี้ ปัจจัยที่ส่งผลให้สกุุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร เนื่องมาจากผลการประชุมของ ECB เมื่อวานนี้ระบุว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของ ECB มีมติขยายระยะเวลาในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE ออกไปอีก 9 เดือน โดยให้สิ้นสุดในเดือนธ.ค.2017 จากเดิมที่จะครบกำหนดในเดือนมี.ค.2017 นอกจากนี้ ECB ได้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ รวมทั้งคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.4% และคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%
ส่วนรายงานเศรษฐกิจที่สำคัญของสหัฐในช่วงคืนวันนี้ จะมีการประกาศตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค.ของมหาวิทยาลัยมิชิแกน โดยตัวเลขคาดการณ์จะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ขณะที่ไฮไลท์เศรษฐกิจที่นักลงทุนเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิดคือการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ในสัปดาห์หน้าระหว่างวันที่ 13-14 ธ.ค.นี้ โดยผลสำรวจของ CME Group FedWatch ล่าสุดระบุว่ามีโอกาสถึง 93% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นครั้งแรกในปีนี้และครั้งที่ 2 ในรอบเกือบ 10 ปี อย่างไรก็ดีนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่าราคาทองคำเคลื่อนไหวลดลงตอบรับประเด็นดังกล่าวไปพอสมควรแล้ว จึงคาดว่าราคาทองจะปรับลดลงจากประเด็นที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ไม่มากนัก
ทางด้านราคาทองในประเทศเปิดตลาดวันศุกร์ราคาร่วงลง 100 บาท จากราคาเมื่อวานที่ปรับเพิ่มขึ้น 50 บาท โดยทองในประเทศปรับลดลงตามทองคำตลาดโลก อย่างไรก็ดีจะเห็นว่าทองในประเทศปรับลดลงได้ไม่มากนัก เนื่องจากเงินบาทกลับมาอ่อนค่าเป็นแรงบวกและสามารถชะลอการลดลงของทองในประเทศได้
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำคาดเคลื่อนไหวในช่วง 1,160-1,180 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้มีแนวรับระยะสั้นที่ 1,160-1,165 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ถ้าหลุดแนวรับดังกล่าวจะมีแนวรับถัดไปที่ 1,150 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่มีแนวต้านระยะสั้นที่ 1,180 และ 1,190 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรงทะลุระดับ 2,700$
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 0 | 0 | |
23 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 09:00 น. | (ครั้งที่ 1) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง