เฟดขึ้นดอกเบี้ยทองร่วงแล้วกว่า34$ ศุกร์เช้าในประเทศลง100
โดยราคาทองคำร่วงลงหนักเกือบ 3% หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมล่าสุด นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ เป็นอีกปัจจัยที่กดดันทองคำให้ร่วงลง ในประเทศเปิดตลาดวันศุกร์ลงอีก 100
ราคาทองคำร่วงลงอย่างหนักกว่า 34 ดอลลาร์แตะระดับ 1,129 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ภายหลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟด มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอีก 0.25% สู่ระดับ 0.50-0.75% พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีหน้า ครั้งละ 0.25% โดยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป
นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังสร้างแรงกดดันต่อตลาดทองคำ เนื่องจากจะทำให้ทองคำมีราคาแพงและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ
ขณะที่เมื่อคืนที่ผ่านมา รายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลกดดันมายังตลาดทองคำ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ลดลง 4,000 รายจากสัปดาห์ก่อนหน้า สู่ระดับ 254,000 ราย โดยเป็นการลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 255,000 ราย ขณะที่ ตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 7 จุด แตะระดับ 70 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 11 ปี
ขณะเดียวกันตลาดทองคำยังคงโดนปัจจัยกดดันจาก รายงานของกองทุน SPDR Gold Trust กองทุน ETF ทองคำรายใหญ่ของโลก ที่ยังคงเดินหน้าเทขายทองคำอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อวานนี้กองทุน SPDR เทขายทองคำอีก 7.11 ตัน
ส่วนรายงานเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในช่วงคืนวันนี้ จะมีการรายงานตัวเลขการอนุญาตก่อสร้างและการเริ่มก่อสร้างบ้านเดือนพ.ย. ซึ่งตัวเลขคาดการณ์ทั้ง 2 รายงานจะออกมาลดลง และจะส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์มีแนวโน้มกลับมาอ่อนค่าลงและช่วยหนุนราคาทองคำได้
ทางด้านราคาทองในประเทศ เปิดตลาดวันศุกร์สุดสัปดาห์ราคาปรับลดลงอีก 100 บาท หลังจากเมื่อวานราคาปรับลดง 250 บาท ตามทิศทางทองคำตลาดโลก อย่างไรก็ดีทองในประเทศยังได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินบาทที่ระดับ 35.82 บาทต่อดอลลาร์ซึ่งทำให้สามารถชะลอการลดลงของทองในประเทศให้ไม่มากเท่าทองคำตลาดโลกได้
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำคาดเริ่มฟื้นตัว แต่คาดยังมีกรอบที่จำกัด โดยมีแนวต้านระหว่างวันที่ 1,140 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1,150 และ 1,160 ดอลลาร์ต่อออนซ์ตามลำดับ ขณะที่มีแนวรับที่ 1,120-1,125 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และแนวรับหลักสำคัญที่ 1,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรงทะลุระดับ 2,700$
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 0 | 0 | |
23 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 09:00 น. | (ครั้งที่ 1) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวหุ้น, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง