ฮั่วเซ่งเฮงเผย SPDR ถือทองลดลง 4.21 ตัน
โดยราคาทองคำเคลื่อนไหวค่อนข้างทรงตัวในการซื้อขายช่วงกลางวัน ก่อนที่จะเริ่มแกว่งตัวผันผวนในการซื้อขายช่วงค่ำ และสามารถกลับมาปิดตลาดเพิ่มขึ้นได้อีกครั้ง
ส่วนราคาทองในประเทศได้รับปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของเงินบาท ส่งผลให้การปรับขึ้นของราคาทองคำในประเทศ มีกรอบที่กว้างกว่าปกติ โดยราคาทองคำปิดตลาดเมื่อคืนนี้(พุธที่ 24 เมษายน2556)ที่ 1,430.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 17.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่บริเวณ 1,411 และ 1,433 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ
ส่วนราคาซื้อขายทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% วานนี้(พุธที่ 24 เมษายน2556) ขายออกที่บาทละ 19,500 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 19,400 บาท ทองรูปพรรณชนิด 96.5% ขายออกที่บาทละ 19,900 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 19,116.76 บาท กองทุน SPDR รายงานว่ามีการลดการถือครองทองคำลง 4.21 ตัน ส่งผลให้ปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำรวม 1,092.98 ตัน
ราคาทองคำที่ปรับตัวลงมามากในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ส่งผลให้มีความต้องการซื้อทองคำทั้งทองรูปพรรณและทองคำแท่งเพิ่มมากขึ้น เงินบาทที่อ่อนค่าลงส่วนหนึ่งจึงน่าจะเป็นผลมาจากความต้องการซื้อในส่วนนี้ ประกอบกับนักลงทุนบางส่วน เริ่มคาดการณ์ว่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมามาก อาจกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ จึงอาจมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย หรืออาจมีการออกมาตรการควบคุมการแข็งค่าของเงินบาท ส่งผลให้เงินบาทในช่วงหลายวันที่ผ่านมาอ่อนค่าลง
ส่วนการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในตลาดโลกระยะนี้ ยังไม่มีปัจจัยบวกหรือลบใหม่ๆ การฟื้นตัวที่เกิดขึ้นเกิดจากแรงซื้อจากความต้องการใช้ทองจริง ที่มีกลับเข้ามามากตอบรับราคาทองคำที่ปรับตัวลงรุนแรงในสัปดาห์ก่อน แต่นักลงทุนที่ใช้ทองคำ เพื่อการเก็งกำไรส่วนใหญ่ยังใช้ความระมัดระวังในการซื้อทองคำ และมีแรงขายกลับออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้การฟื้นตัวของราคาทองคำมีกรอบค่อนข้างจำกัด และยังต้องระวังแรงขายที่อาจมีกลับออกมาอีก
ดังนั้น สำหรับการซื้อเก็งกำไรในระยะนี้ควรตั้งจุดขายตัดขาดทุนหรืออาจใช้สถานะขายของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของทองคำป้องกันความเสี่ยงในช่วงที่ราคาทองคำปรับตัวลงแรง โดยมีแนวรับสำหรับกลับเข้าซื้อเก็งกำไรในระหว่างวันอยู่ที่บริเวณ 1,410-1,415 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และต้องระวังแรงขายที่อาจมีกลับออกมามาก หากไม่สามารถยืนเหนือแนวรับบริเวณ 1,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้ ส่วนแนวต้านของวันอยู่ที่บริเวณ 1,440-1,450 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากสามารถผ่านแนวต้านบริเวณนี้ขึ้นไปได้ ภาพการเคลื่อนไหวทางเทคนิคก็จะมีสัญญาณซื้อเกิดขึ้น และคาดว่าราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นสู่แนวต้านบริเวณ 1,470-1,480 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้ต่อไป
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 550 | 50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 17:09 น. | (ครั้งที่ 14) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ