ฮั่วเซ่งเฮงแนะสัปดาห์หน้าติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ
โดย
ราคาทองคำสัปดาห์นี้ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากสามารถทะลุผ่านแนวต้านที่ 1,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยสามารถทะลุแนวต้านที่ระดับ 1,425 และ 1,440 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ราคาทองคำได้แรงหนุนจากแรงซื้อทองคำทั้งทองแท่งและทองรูปพรรณในแถบเอเชีย เนื่องจากมีมุมมองว่าราคาทองคำปรับตัวลงแรงและมีราคาค่อนข้างถูก ถึงแม้ยังมีเม็ดเงินไหลออกจากกองทุนอีทีเอฟทองคำอย่างต่อเนื่องก็ตาม ถึงแม้ในวันอังคารมีการปรับฐานลงเนื่องจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของจีนและยุโรปออกมาน่าผิดหวัง โดย HSBC เปิดเผยดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีนเดือนเมษายนลดลงเหลือ 50.5 จาก 51.6 ในเดือนมีนาคม
เนื่องจากคำสั่งซื้อใหม่สำหรับสินค้าส่งออกจีนได้หดตัวลงหลังจากที่เพิ่มขึ้นในเดือนมี.ค. ส่งผลให้มีความวิตกกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีน สำหรับดัชนี PMI ภาคการผลิตของยูโรโซนเดือนเมษายนอ่อนแอและหดตัวลงอย่างต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเดือนที่ 15 โดยเฉพาะอย่างยิ่งดัชนี PMI ขั้นต้นแบบรวมของ Markit ของทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของเยอรมนีเดือนเมษายนหดตัวครั้งแรกรอบ 5 เดือน อย่างไรก็ดีในช่วงกลางสัปดาห์ต่อเนื่องถึงปลายสัปดาห์ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ต่อ โดยเฉพาะการซื้อขายในช่วงที่ตลาดเอเชียเปิดทำการ
สัปดาห์หน้า(29 เมษายน-3พฤษภาคม 2556) มีประเด็นที่ต้องติดตามอย่างเข้มข้น ทั้งการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ และการประชุมธนาคารกลางยุโรป รวมทั้งตัวเลขการจ้างงานและอัตราการว่างงานของสหรัฐฯ สำหรับการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ในวันอังคารและวันพุธคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังคงเดินหน้าดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไป
ทั้งนโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำและการดำเนินมาตรการ QE สำหรับตัวเลขการจ้างงานและอัตราการว่างงานของสหรัฐฯ จะมีผลต่อการตัดสินใจถอนมาตรการ QE ของธนาคารกลางสหรัฐฯ ทั้งนี้คาดว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนเมษายนจะเพิ่มขึ้น 145,000 ราย จากที่เดือนมีนาคมเพิ่มขึ้น 88,000 ราย ส่วนอัตราการว่างงานคาดทรงตัวที่ 7.6% ถ้าออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาดไว้ จะส่งผลให้ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับขึ้นได้ แต่ในทางตรงกันข้ามกรณีออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ ราคาทองคำมีโอกาสถูกแรงเทขายออกมา
ส่วนการประชุมธนาคารกลางยุโรปต้องลุ้นว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงหรือไม่ จากอัตราดอกเบี้ยนโยบายปัจจุบันอยู่ที่ 0.75% เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจของยุโรปออกมาย่ำแย่ ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าจะมีการตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่เดิม ทั้งนี้ ถ้ามีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลบวกต่อราคาทองคำ แนวรับของราคาทองคำอยู่ที่บริเวณ 1,425 และ 1,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,470-1,480 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
| 96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
|---|---|---|
| ทองคำแท่ง | 44,100.00 | 44,200.00 |
| ทองรูปพรรณ | 43,312.12 | 44,700.00 |
| วันนี้ 500 | 50 | |
| 22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 16:41 น. | (ครั้งที่ 13) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ