ฮั่วเซ่งเฮงเผยทองฟื้นรับข่าว ECB ลดดอกเบี้ยตามคาด
โดยราคาทองคำเคลื่อนไหวทรงตัวในการซื้อขายระหว่างวัน ส่วนราคาทองในประเทศปรับตัวลงน้อยกว่าปกติเนื่องจากเงินบาทที่กลับอ่อนค่าลง โดยราคาทองคำเริ่มฟื้นตัวขึ้นในการซื้อขายช่วงค่ำหลังจากทราบผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรปที่มีมติปรับลดดอกเบี้ยลง ประกอบกับมีแรงซื้อเก็งกำไรกลับเข้าสู่ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงทั้งตลาดหุ้นและตลาดน้ำมัน จึงส่งผลให้ราคาทองฟื้นตัวขึ้นในทิศทางเดียวกัน
โดยราคาทองปิดตลาดเมื่อคืนนี้(พฤหัสบดีที่ 2 พ.ค. 2556)ที่ 1,465.85 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 10.15 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่บริเวณ 1,448 และ 1,473 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ตามลำดับ ส่วนราคาซื้อขายทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวานนี้(พฤหัสบดีที่ 2 พ.ค. 2556)ขายออกที่บาทละ 20,300 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 20,200 บาท ทองรูปพรรณชนิด 96.5% ขายออกที่บาทละ 20,700 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 19,905.08 บาท กองทุน SPDR รายงานว่ามีการลดการถือครองทองคำลงจากวันอังคาร 6.02 ตัน ส่งผลให้ปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำรวม 1,069.21 ตัน
ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นตอบรับผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรปซึ่งวานนี้มีติให้ปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% ตามที่ตลาดประเมิน โดยนายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรปแถลงว่าการตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 0.50% เป็นผลจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำและยังคงสอดคล้องกับเป้าหมาย ส่วนตลาดแรงงานในยูโรโซนยังคงอ่อนแอ และคาดว่าภาวะซบเซาทางเศรษฐกิจจะยังคงยืดเยื้อต่อไป การลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปี 2555 และคาดว่าประเด็นนี้เป็นประเด็นหลักที่ส่งผลให้ราคาทองคำสามารถฟื้นตัวขึ้นในการซื้อขายช่วงค่ำที่ผ่านมา
ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐฯ ในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 27 เมษายน ปรับตัวลง 18,000 ราย สู่ระดับ 324,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี ตรงข้ามกับผลสำรวจที่คาดว่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นสู่ 345,000 ราย นักลงทุนยังคงรอติดตามรายตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนเมษายนในคืนวันนี้ โดยผลสำรวจประเมินว่าว่า ตัวเลขการจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 145,000 ตำแหน่งในเดือนเมษายน และคาดว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวอยู่ที่ 7.6% หากรายงานออกมาดีกว่าที่คาด ก็จะเป็นปัจจัยลบกดดันให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงต่อไป
การเก็งกำไรระยะสั้นในทองคำยังคงต้องระวังแรงขายที่คาดว่าจะมีกลับออกมา ภาพรวมการเคลื่อนไหวทางเทคนิคยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางขาลง และหากราคาไม่สามารถประคองตัวเหนือแนวรับบริเวณ 1,440-1,450 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ได้ ก็จะเป็นสัญญาณขายกดดันให้ราคาทองคำปรับตัวลงสู่แนวรับบริเวณ 1,400 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ ต่อไป ส่วนกรณีที่ราคาทองฟื้นตัวกลับ ที่แนวต้านบริเวณ 1,480-1,490 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ คาดว่าจะมีแรงขายกลับออกมามาก ควรใช้สถานะขายของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าป้องกันความเสี่ยงคู่กับการถือครองทองคำแท่ง โดยมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนในกรณีที่ราคาทองดีดตัวผ่านแนวต้านบริเวณ 1,500 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ ขึ้นไปได้
ส่วนการเก็งกำไรในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าซึ่งตลาดอนุพันธ์ของไทยจะปิดทำการในวันจันทร์เนื่องในวันฉัตรมงคล หากไม่ต้องการรับความเสี่ยงควรปิดสถานะออกไปก่อน หรือใช้วิธีซื้อและขายระหว่างสัญญาต่างเดือน ส่วนการซื้อขายทองคำแท่งในระบบออนไลน์ของฮั่วเซ่งเฮงยังคงเปิดซื้อขายตามปกติ.
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,050.00 | 44,150.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,251.48 | 44,650.00 |
วันนี้ 450 | -50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 15:13 น. | (ครั้งที่ 12) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ