ฮั่วเซ่งเฮงเผย SPDR ถือทองลดลง 2.53 ตัน
โดยฮั่วเซ่งเฮงเผย SPDR ถือทองลดลง 2.53 ตัน ราคาทองคำแกว่งตัวขึ้นลงผันผวนในการซื้อขายวันศุกร์(10พ.ค.56) โดยเริ่มมีแรงขายกลับออกมามากตั้งแต่การซื้อขายช่วงเย็นวันศุกร์(10พ.ค.56)จนราคาอ่อนตัวลงหลุดแนวรับบริเวณ 1,440 ดอลลาร์ ต่อออนซ์…
ราคาทองคำแกว่งตัวขึ้นลงผันผวนในการซื้อขายวันศุกร์ โดยเริ่มมีแรงขายกลับออกมามากตั้งแต่การซื้อขายช่วงเย็นวันศุกร์(10พ.ค.56)จนราคาอ่อนตัวลงหลุดแนวรับบริเวณ 1,440 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ และหลังจากราคาปรับตัวลงค่อนข้างแรง เนื่องจากไม่สามารถยืนเหนือแนวรับดังกล่าวได้ แต่เริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาจนราคาฟื้นตัวกลับลดช่วงการติดลบที่ทำไว้ในระหว่างวันลง โดยราคาทองปิดตลาดเมื่อคืนวันศุกร์(10พ.ค.56)ที่ 1,447.80 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ปรับตัวลดลง 8.55 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่บริเวณ 1,419 และ 1,462 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ตามลำดับ ส่วนราคาซื้อขายทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวันเสาร์(11 พ.ค. 56)ที่ผ่านมานี้ ขายออกที่บาทละ 20,450 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 20,350 บาท ทองรูปพรรณชนิด 96.5% ขายออกที่บาทละ 20,850 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 20,056.68 บาท กองทุน SPDR รายงานว่าได้มีการลดปริมาณการถือครองทองคำลง 2.53 ตัน ส่งผลให้ปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำรวม 1,051.65 ตัน
ราคาทองปรับตัวลงตามแรงขายทางเทคนิค หลังจากไม่สามารถยืนเหนือแนวรับบริเวณ 1,440 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ และแม้ว่าในการซื้อขายช่วงค่ำจะเริ่มฟื้นตัวกลับตอบรับคำแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ประเมินถึงภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และตลาดแรงงานในปัจจุบันว่ายังจำเป็นต้องใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป แต่ภาพรวมการเคลื่อนไหวทางเทคนิคของราคาทองก็ยังมีแนวโน้มที่จะอ่อนตัวลงต่อ โดยต้องระวังแรงขายที่จะมีกลับออกมามากหากไม่สามารถประคองตัวเหนือแนวรับ ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดของเมื่อวันศุกร์บริเวณ 1,420 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ได้ โดยคาดว่าราคาทองจะปรับตัวลงไปยังแนวรับบริเวณ 1,400 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ต่อไป
ส่วนกรณีที่ราคาฟื้นตัวกลับและปิดเหนือแนวต้านบริเวณ 1,465-1,470 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ได้ จึงจะเป็นสัญญาณซื้อสำหรับเก็งกำไรการฟื้นตัวขึ้นสู่แนวต้านบริเวณ 1,480 และ 1,500 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ต่อไป การเก็งกำไรระยะสั้นยังเป็นการเก็งกำไรตามปัจจัยทางเทคนิคเป็นหลัก ส่วนรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าสนใจในสัปดาห์นี้อยู่ที่การรายงานตัวเลขยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ และจีน รวมทั้งรายงานเงินเฟ้อของสหรัฐฯ และยุโรป ซึ่งในส่วนของรายงานเงินเฟ้อนั้นคาดว่าคงยังเคลื่อนไหวในระดับต่ำ จนไม่เป็นอุปสรรคต่อการผ่อนคลายทางการเงินของสหรัฐฯ และยุโรป ดังนั้น รายงานยอดค้าปลีกจึงเป็นประเด็นที่อาจกระทบต่อราคาทองหากรายงานออกมาสูงหรือต่ำกว่าที่ตลาดประเมิน.
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,050.00 | 44,150.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,251.48 | 44,650.00 |
วันนี้ 450 | -50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 10:35 น. | (ครั้งที่ 8) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง