ฮั่วเซ่งเฮง เผย ทองร่วงต่อ นักลงทุนเลือกเก็งกำไรสินทรัพย์เสี่ยง
โดยราคาทองคำยังคงปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง โดยมีแรงกดดันจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ และแรงขายทางเทคนิคหลังจากราคาทองไม่สามารถยืนเหนือแนวรับของวัน ส่งผลให้การเคลื่อนไหวโดยรวมของราคาทองคำในสัปดาห์ก่อน(จันทร์ที่ 13-ศุกร์ที่ 17 พฤษภาคม 2556) ปรับตัวลงแรงต่อเนื่องติดต่อกันหลายวัน และยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลงต่อแม้ว่าในระยะสั้นอาจมีการดีดตัวทางเทคนิคเกิดขึ้น
โดยราคาทองปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ 17 พฤษภาคม 2556 ที่ 1,359.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปรับตัวลดลง 26.22 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่บริเวณ 1,355 และ 1,392 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ
ส่วนราคาซื้อขายทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวันเสาร์ที่ 18 พฤษภาคม 2556 ที่ผ่านมา ขายออกที่บาทละ 19,350 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 19,250 บาท ทองรูปพรรณชนิด 96.5% ขายออกที่บาทละ 19,750 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 18,965.16 บาท กองทุน SPDR รายงานว่ามีการปรับลดปริมาณการถือครองทองคำลง 3.01 ตัน ส่งผลให้ปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำรวม 1,038.41 ตัน
การเคลื่อนไหวของราคาทองคำโดยรวม ยังเป็นการเคลื่อนไหวในทิศทางขาลง หากมีการดีดตัวกลับ คาดว่าจะเป็นเพียงการดีดตัวทางเทคนิค ก่อนที่ราคาจะปรับตัวลงต่อ ปัจจัยต่างๆ โดยรวมแล้ว ยังเอื้อให้นักลงทุนซื้อเก็งกำไรในตลาดสินทรัพย์เสี่ยง แม้ว่าการคาดการณ์เรื่องการยุติมาตรการผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้สภาพคล่องในตลาดลดลง แต่การยุติการผ่อนคลายทางการเงินก็เป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เริ่มฟื้นตัว จึงเป็นปัจจัยบวกต่อการเก็งกำไรในตลาดหุ้น และเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำให้อ่อนตัวลง
ดังนั้น การถือครองทองคำแท่ง ควรใช้สถานะขายของสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ป้องกันความเสี่ยงในช่วงที่ราคาทองอ่อนตัวลงหลุดแนวรับ หรือดีดตัวขึ้นเข้าใกล้แนวต้าน และใช้สถานะซื้อถัวเฉลี่ยต้นทุนในช่วงที่ราคาทองเริ่มดีดตัวกลับ ส่วนปัจจัยในสัปดาห์นี้ประเด็นหลักจากต่างประเทศ อยู่ที่เรื่องการแก้ไขปัญหาทางการคลังของสหรัฐฯ และรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ รวมทั้งการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น โดยปัจจัยจากสหรัฐฯ นั้น คาดว่าในส่วนของการลดรายจ่ายทางการคลัง หากยังไม่สามารถตกลงกันได้ ก็จะมีการเลื่อนระยะเวลาในการลดรายจ่ายออกไปเป็นช่วงปลายปี ผลกระทบต่อตลาดหุ้นและตลาดสินทรัพย์เสี่ยงจึงมีค่อนข้างจำกัด
ส่วนรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ นั้น หากมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องแสดงความเห็นในเชิงที่เห็นควรให้ยุติการผ่อนคลายทางการเงิน ก็จะเป็นปัจจัยลบกดดันราคาทองให้อ่อนตัวลงต่อ และสำหรับการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่นนั้น คาดว่าอาจมีการระบุถึงเป้าหมายเงินเฟ้อที่ชัดเจน ซึ่งจะเป็นสัญญาณยืนยันการเพิ่มสภาพคล่องเข้าสู่ระบบ และการเก็งกำไรในตลาดหุ้นและสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ ก็จะยังได้รับความสนใจจากนักลงทุน ซึ่งจะเห็นว่าปัจจัยโดยรวม ยังเป็นปัจจัยลบต่อราคาทอง กรณีการยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือในช่วงสุดสัปดาห์ คาดว่าคงมีผลต่อราคาทองค่อนข้างน้อย เนื่องจากในช่วงปกติเกาหลีเหนือก็มีการทดลองยิงขีปนาวุธในลักษณะนี้อยู่บ่อยครั้ง จึงยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเหตุการณที่เกิดขึ้นเป็นสัญญาณว่าเกิดสงครามบนคาบสมุทรเกาหลีขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในส่วนภาพการเคลื่อนไหวทางเทคนิคของราคาทองหลังปรับตัวลงเข้าใกล้แนวรับบริเวณ 1,350 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จึงอาจมีการดีดตัวทางเทคนิคในระยะสั้นเกิดขึ้น แต่ภาพรวมยังมีแนวโน้มที่จะอ่อนตัวลงสู่แนวรับบริเวณ 1,320 ดอลลาร์ การซื้อเก็งกำไรการฟื้นตัวในช่วงนี้ จึงยังเป็นการเก็งกำไรการดีดตัวในช่วงสั้นๆ จากแนวรับบริเวณ 1,320 และ 1,330-1,335 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวต้านของวันอยู่ที่บริเวณ 1,385-1,390 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งยังคงต้องระวังแรงขายที่คาดว่าจะมีกลับออกมา.
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,100.00 | 44,200.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,312.12 | 44,700.00 |
วันนี้ 500 | 50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 10:05 น. | (ครั้งที่ 5) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง