หุ้นไทยครึ่งวันเช้าต้นสัปดาห์(จันทร์ที่20พ.ค.56) บวก 11.46 จุด ชินคอร์ป ซื้อขายสูงสุด
โดยบรรยากาศการซื้อขายตลาดหุ้นไทยภาคเช้าต้นสัปดาห์จันทร์ที่ 20 พฤษภาคม 2556 ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดช่วงเช้า โดยดัชนีปรับขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ 1,642.99 จุด ก่อนมีแรงขายทำกำไรออกมาเล็กน้อย ส่งผลให้ดัชนีต่ำสุดอยู่ที่ 1,636.21 จุด ก่อนปิดการซื้อขายภาคเช้าที่ 1,639.42 จุด เพิ่มขึ้น 11.46 จุด คิดเป็น 0.70% มูลค่าการซื้อขาย 27,725.32 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 386 หลักทรัพย์ ลดลง 213 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 164 หลักทรัพย์
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ประเมินว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาคเอเชีย มาจากทางญี่ปุ่นที่มีการเสนอนโยบายอัดฉีดเงินเข้าระบบอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลบวกต่อ money supply ส่วนเศรษฐกิจสหรัฐฯก็มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น แม้ว่าอาจจะมีการชะลอการใช้มาตรการ QE ก่อนสิ้นปีนี้
ขณะที่ช่วงบ่ายคาดว่าจะเป็นไปในทิศทางเดียวกับช่วงเช้า เนื่องจากยังมีแนวโน้มเชิงบวกภายนอก ขณะเดียวกันอาจมีแรงขายทำกำไรออกมาเล็กน้อย แต่ตลาดก็ยังสามารถไปต่อได้
สำหรับ 5 อันดับ หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด คือ
1.INTUCH บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 97.50 บาท เพิ่มขึ้น 25 สตางค์ คิดเป็น 0.26%
2.TRUE บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 10 บาท เพิ่มขึ้น 25 สตางค์ คิดเป็น 2.56%
3.ITD บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 9 บาท เพิ่มขึ้น 25 สตางค์ คิดเป็น 2.86%
4.PTT บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 343 บาท เพิ่มขึ้น 8 บาท คิดเป็น 2.39%
5.MLINK บริษัท เอ็ม ลิ้งค์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 5.90 บาท เพิ่มขึ้น 40 สตางค์ คิดเป็น 7.27%
นายรณกฤต สารินวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ดัชนีตลาดฯ ในวันนี้ ปรับตัวดีต่อเนื่อง มีโอกาสที่จะสามารถแตะบริเวณ 1,650 จุดได้ เนื่องจากได้ปัจจัยเสริมมาจากการที่ตลาดรอบบ้านส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
ส่วนตลาดหุ้นไทย ช่วงนี้ยังไม่มีแรงกดดันอะไรที่น่ากังวลนัก แต่อาจจะมีความคาดหวังว่า ทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อาจจะมีมาตรการลดอัตราดอกเบี้ย เพราะตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ที่ประกาศออกมา ต่ำกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์เอาไว้ อย่างไรก็ตาม ปัจจัยนี้ไม่ถือว่าเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นแต่อย่างใด
ปัจจัยที่ต้องติดตามระหว่างวัน คือ นักลงทุนควรติดตามสถานการณ์หลังจากที่มีการประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจออกมา และจับตามองว่า จะมีใครมองประเด็นนี้ในแง่ใดบ้าง เนื่องจากช่วงนี้จะมีข่าวเกี่ยวกับคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ออกมาอยู่เรื่อยๆ
แนวโน้มดัชนีฯ ในช่วงบ่าย ยังคงปรับตัวดีอยู่ แต่อาจจะมีการแกว่งตัวเล็กน้อย และคาดว่าจะมีแนวโน้มดีต่อเนื่องตลอดทั้งสัปดาห์
กลยุทธ์การลงทุน ควรเทรดดิ้งหุ้นตามปกติ และสามารถสะสมต่อได้ เพราะยังไม่มีอะไรที่น่ากังวล โดยสามารถเลือกลงทุนได้กระจายๆ ออกไปในแต่ละกลุ่ม เช่น ในกลุ่มทีวีดิจิตอล ไอซีที รับเหมาก่อสร้าง เป็นต้น โดยไม่จำเป็นต้องยึดเลือกลงทุนในกลุ่มของ Domestic Play อย่างเดียว โดยให้กรอบแนวรับอยู่ที่ 1,630 จุด และแนวต้านอยู่ที่ 1,645 จุด
ที่มาโดย : ไทยรัฐออนไลน์, กรุงเทพธุรกิจออนไลน์, settrade.com
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 550 | 50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 10:13 น. | (ครั้งที่ 6) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวหุ้น, ข่าวเศรษฐกิจ