แนวโน้มราคาทองพรุ่งนี้(ศุกร์ที่ 31 พ.ค. 56) โดย YLG
โดยสภาวะตลาดวันพฤหัสบดีที่ 30 พฤษภาคม 2556 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,389.33-1,410.51 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM13 อยู่ที่ 20,230 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 310 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,920 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVM13 อยู่ที่ 684 บาท โดยราคาปรับตัวเพิมขึ้น 7 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 677 บาท
แนวโน้มราคาทองวันพรุ่งนี้(ศุกร์ที่ 31 พฤษภาคม 2556)
การอ่อนค่าลงของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินต่างๆ เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐลดลงจากระดับสูงสุดในรอบในรอบ 13 เดือน โดยดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าเงินปรับตัวลดลงจากระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีที่ เป็นปัจจัยบวกหนุนให้ราคาทองคำขยับขึ้น ประกอบกับช่วงที่ผ่านมาการร่วงลงของราคาทองสามารถดึงดูดคำสั่งซื้อทองคำในตลาดปัจจุบันของภูมิภาคเอเชีย โดยค่าพรีเมียมของทองคำแท่งในสิงคโปร์พุ่งขึ้นสู่สถิติสูงสุดที่ 7 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทางด้านค่าพรีเมียมในตลาดฮ่องกงอยู่ที่ในระดับสูงเช่นกันที่ 4-5 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้แสดงถึงกำลังซื้อที่แข็งแกร่งในตลาดทองคำ
ทั้งนี้ กองทุนทองคำ SPDR ซึ่งเป็นกองทุนทองคำขนาดใหญ่ ได้ทำการซื้อทองคำเป็นครั้งแรกในรอบหลายสัปดาห์ที่ปริมาณ 0.902 ตัน ซึ่งหากนับตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมกองทุนทองคำ SPDR ขายทองคำสุทธิออกมา 66.29 ตัน ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นอาจมีนัยสำคัญต่อทิศทางราคาทองคำต่อไป อย่างไรก็ตามเมื่อราคขยับขึ้นยังมีแรงขายทำกำไรออกมา ทั้งนี้องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา(OECD) ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลก โดยชี้ประเทศกลุ่มยูโรจะถดถอยหนักขึ้น ขณะที่อิตาลีกำลังเผชิญกับภาวะถดถอยที่รุนแรงขึ้น และอัตราว่างงานที่สูงขึ้นในปีนี้ได้เป็นอีกหนึงแรงกดดันในตลาดทองคำ เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่าในระยะสั้นราคาทองคำพยายามขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,412 ดอลลาร์ต่อออนซ์หากราคาสามารถยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้ มีแนวโน้มที่ราคาทองคำจะขยับขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,420 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้หากราคาไม่สามารถยืนเหนือ 1,420 ดอลลาร์ต่อออนซ์ต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรระยะสั้น
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำนักลงทุนสามารถลงทุนระยะสั้นโดยเข้าซื้อหากราคาย่อตัวไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,388 หรือ 1,376 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยไม่แนะนำให้เข้าซื้อทั้งหมดบริเวณแนวรับใดแนวรับหนึ่ง ควรเหลือเงินทุนเพื่อซื้อเฉลี่ยหากราคาหลุดแนวรับแรกซึ่งราคาจะปรับตัวลงไปบริเวณแนวรับถัดไป และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นบริเวณแนวต้าน 1,412 หรือ 1,420 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจเห็นการย่อตัวของราคาทองคำอีกครั้ง เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่าการลงทุนยังเน้นการลงทุนระยะสั้น เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้บ้าง ก็ยังคงมีแรงขายทองคำออกมาเช่นกัน
ทองคำแท่ง (96.50%)
- แนวรับ 1,388 (19,810บาท) 1,376 (19,630บาท) 1,367 (19,500บาท)
- แนวต้าน 1,412 (20,150บาท) 1,420 (20,260บาท) 1,430 (20,410บาท)
GOLD FUTURES (GFM13)
- แนวรับ 1,388 (19,930บาท) 1,376 (19,760บาท) 1,367 (19,630บาท)
- แนวต้าน 1,412 (20,750บาท) 1,420 (20,390บาท) 1,430 (20,530บาท)
SILVER FUTURES (SVM13)
- แนวรับ 22.30 (677บาท) 22.05 (669บาท) 21.90 (665บาท)
- แนวต้าน 23.10 (701บาท) 23.45 (712บาท) 23.80 (722บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888 หรือ www.ylgbullion.com
ที่มาโดย : ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 550 | 50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 17:09 น. | (ครั้งที่ 14) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง