ฮั่วเซ่งเฮง คาดสัปดาห์หน้า(10-14 มิ.ย.56) ทองเคลื่อนไหวในกรอบแคบ
โดยสัปดาห์นี้(จันทร์ที่ 3-ศุกร์ที่ 7 มิถุนายน 2556)ราคาทองคำ มีการเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ระหว่าง 1,390-1,420 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองคำค่อนข้างแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นที่โดนเทขายอย่างหนักติดต่อกัน สัปดาห์นี้ตลาดรอติดตามตัวเลขตลาดแรงงานของสหรัฐฯ เป็นหลัก โดยรายงานตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนเดือนพฤษภาคมของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ โดย ADP Employer Services ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดแรงงานในสหรัฐฯ เปิดเผยว่าการจ้างงานภาคเอกชนทั่วประเทศเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้น 135,000 ตำแหน่ง น้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 171,000 ตำแหน่ง ส่วนรายงาน Beige Book ของธนาคารกลางสหรัฐฯ ระบุว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ขยายตัวเล็กน้อยถึงปานกลางนับตั้งแต่กลางเดือนเมษายน ขณะที่การจ้างงานยังคงค่อนข้างซบเซา ทำให้นักลงทุนคาดการณ์ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะยังไม่ยุติหรือลดปริมาณการผ่อนคลายทางการเงินในเร็ววันนี้ สำหรับการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) เมื่อวันพฤหัสฯ มีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่เดิม 0.50% โดยนายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรปได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของ 17 ประเทศในกลุ่มยูโรโซนในปีนี้ โดยคาดว่าการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของยูโรโซนในปีนี้จะหดตัวลง 0.6% จากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะหดตัวลง 0.5% ส่วนปีหน้าคาดว่าจีดีพียูโรโซนจะขยายตัว 1.1% เพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้ที่คาดว่าจะขยายตัว 1.0% นอกจากนี้ยังได้ปรับลดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในปีนี้ลงมาอยู่ที่ระดับ 1.4% จากก่อนหน้าที่คาดการณ์ไว้ที่ 1.6% ส่วนเรื่องนโยบายทางการเงินในอนาคตนั้น นายดรากิได้ยืนยันถึงจุดยืนในการผ่อนคลายนโยบายการเงิน ตราบเท่าที่เห็นว่าจำเป็น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้น
สัปดาห์หน้า(จันทร์ที่ 10-ศุกร์ที่ 14 มิถุนายน 2556) มีประเด็นที่คาดว่าจะกระทบต่อทิศทางราคาทองคำ ทางยุโรปจะมีคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญเยอรมนี ประเด็นแผนการซื้อพันธบัตรของธนาคารกลางยุโรป ส่วนญี่ปุ่นจะมีการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นและการประกาศจีดีพีไตรมาส 1 ของญี่ปุ่น ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ประกอบด้วยยอดค้าปลีกและอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ การประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นในรอบนี้คาดยังมีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่เดิม 0-0.10% และธนาคารกลางญี่ปุ่นยังคงยืนยันว่าจะเพิ่มฐานเงินในอัตรา 60-70 ล้านล้านเยนต่อปี เพื่อให้บรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อ 2% ภายใน 2 ปี การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในสัปดาห์หน้ามีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,380-1,420 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ถ้าราคาทองคำปรับตัวลงต่ำกว่าแนวรับ 1,380 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็จะเป็นสัญญาณขายทางเทคนิค กดดันให้ราคาปรับตัวลงสู่แนวรับบริเวณ 1,350 ดอลลาร์ต่อออนซ์ต่อไป เช่นเดียวกับกรณีที่ราคาดีดตัวผ่านแนวต้านบริเวณ 1,420 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็จะเป็นสัญญาณสำหรับเก็งกำไรการดีดตัวขึ้นโดยมีแนวต้านถัดไปอยู่ที่ 1,440-1,450 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ที่มาโดย : ไทยรัฐออนไลน์
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 550 | 50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 17:09 น. | (ครั้งที่ 14) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง