สรุป วิเคราะห์แนวโน้มราคาทองสัปดาห์หน้า(17-21 มิ.ย.56) และโกลด์ฟิวเจอร์ส โดย YLG
โดยสภาวะตลาดวันศุกร์ที่ 14 มิถุนายน 2556
ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,382.93-1,387.51 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM13 อยู่ที่ 20,100 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 210 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,310 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVM13 อยู่ที่ 709 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 9 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 700 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.59 น.ของวันที่ 14/06/13)
แนวโน้มวันจันทร์ที่ 17 มิถุนายน 2556
ข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐสดใสกระตุ้นการคาดการณ์เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับลด มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งก็ได้ลดความน่าสนใจของทองคำลง นักลงทุนยังคงทยอยขายทองคำและหันไปลงทุนในตลาดหุ้นซึ่งเป็นสินทรัพย์เสี่ยง หลังจากจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์สหรัฐปรับตัวลงสะท้อนให้เห็นถึงการฟื้นตัวของตลาดแรงงานสหรัฐ ขณะที่ยอดค้าปลีกสหรัฐเดือพฤษภาคมปรับตัวขึ้นมากกว่าที่คาดไว้ได้แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มฟื้นตัวขึ้น อย่างก็ตามราคาทองคำยังได้รับปัจจัยบวกจาก ผลสำรวจของแกลลอสะท้อนให้เห็นว่า ชาวอเมริกันเชื่อมั่นในสภาคองเกรสลดลงทำสถิติต่ำสุดที่ 10% ซึ่งระดับความเชื่อมั่นในสภาคองเกรสยังต่ำสุดเมื่อเทียบกับสถาบันอื่นๆ นับตั้งแต่เริ่มบันทึกการสำรวจในปี 2516 เนื่องจากชาวอเมริกันไม่พอใจที่สภาคองเกรสไม่สามารถดำเนินการอะไรได้มากนักเนื่องจากสภาคองเกรสแบ่งการควบคุมออกเป็นหลายฝ่าย เบื้องต้นวายแอลจีแนะนำให้ใช้กลยุทธ์เข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้นเป็นหลัก สำหรับในระยะสั้น ประเมินว่าราคาทองคำยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขยับขึ้นบ้างโดยราคาทองคำมีแนวโน้มขึ้นทดสอบแนวต้าน อย่างไรก็ตามการจับตาความเคลื่อนไหวของราคาทองคำในตลาดโลกนั้นยังไม่เพียงพอสำหรับนักลงทุนในประเทศ เพราะการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่ผันผวนในช่วงนี้ ทำให้นักลงทุนเก็งกำไรในตลาดทองคำในประเทศได้ค่อนข้างยาก โดยการแข็งค่าของเงินบาทนั้นกดดันการขยับขึ้นของราคาทองคำในประเทศค่อนข้างมาก จากนี้แนะนำนักลงทุนว่าการรอจังหวะซื้อเมื่อว่าราคาทองคำจะไหลลงสู่แนวรับสำคัญน่าจะเป็นกลยุทธ์ที่มีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ นักลงทุนควรปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมกับสภาวะตลาดปัจจุบัน
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำนักลงทุนสามารถลงทุนระยะสั้นโดยเข้าซื้อหากราคาย่อตัวไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,373 หรือ 1,365 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยไม่แนะนำให้เข้าซื้อทั้งหมดบริเวณแนวรับใดแนวรับหนึ่ง ควรเหลือเงินทุนเพื่อซื้อเฉลี่ยหากราคาหลุดแนวรับแรกซึ่งราคาจะปรับตัวลงไปบริเวณแนวรับถัดไป และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นบริเวณแนวต้าน 1,395 หรือ 1,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจเห็นการย่อตัวของราคาทองคำอีกครั้ง เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่าการลงทุนยังเน้นการลงทุนระยะสั้น เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้บ้าง ก็ยังคงมีแรงขายทองคำออกมาเช่นกัน
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,373 (19,810บาท) 1,365 (19,690บาท) 1,353 (19,520บาท)
แนวต้าน 1,395 (20,120บาท) 1,400 (20,200บาท) 1,415 (20,410บาท)
GOLD FUTURES (GFM13)
แนวรับ 1,373 (19,960บาท) 1,365 (19,840บาท) 1,353 (19,670บาท)
แนวต้าน 1,395 (20,280บาท) 1,400 (20,350บาท) 1,415 (20,570บาท)
SILVER FUTURES (SVM13)
แนวรับ 21.40 (689บาท) 21.20 (693บาท) 20.90 (683บาท)
แนวต้าน 22.20 (723บาท) 22.50 (732บาท) 22.85 (743บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888 หรือwww.ylgbullion.com
วิเคราะห์ข้อมูลโดย : วายแอลจี YLG
ที่มาจาก : ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 550 | 50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 17:09 น. | (ครั้งที่ 14) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง