หุ้นไทยอังคารที่ 18 มิ.ย. ผันผวนหนักปิดร่วง 43 จุด จับตาเฟด
โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นไทยประจำวันอังคารที่ 18 มิถุนายน 2556 ผันผวนอย่างหนัก โดยช่วงเช้าดัชนีปรับเพิ่มขึ้นไปเกือบ 20 จุด แตะระดับสูงสุดที่ 1,492.28 จุด ขณะที่ช่วงบ่ายดัชนียังทรงตัวในแดนบวกได้ระยะหนึ่ง ก่อนมีแรงขายทำกำไรออกมาต่อเนื่อง ส่งผลให้ดัชนีปรับลดลงไปมากกว่า 40 จุด จากแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ทั้งในกลุ่มสื่อสารและธนาคาร โดยดัชนีแตะระดับต่ำสุดที่ 1,427.40 จุด และปิดการซื้อขายที่ 1,427.42 จุด ลดลง 43.62 จุด คิดเป็นลดลงไป 2.97% รวมมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 61,645.81 ล้านบาท
นายปริญญ์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้บริหารสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์และกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี ( ประเทศไทย ) เปิดเผยว่า สาเหตุที่ตลาดหุ้นไทยปรับลงแรงเกือบ 40 จุด ในช่วงบ่ายวันนี้ คาดว่าจะมาจากแรงขายทำกำไรของนักลงทุนต่างชาติ หลังจากก่อนหน้านั้นดัชนีปรับฐานสู่แนวรับ 1,351 จุด ก่อนที่จะรีบาวน์ขึ้นมาทำระดับสูงสุดที่ 1,492 จุด หรือเพิ่มขึ้นมาประมาณ 150 จุด ทำให้เกิดแรงขายทำกำไรออกมาบางส่วนเพื่อลดความเสี่ยง โดยมีปัจจัยลบเข้ามาสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นประเด็นความกังวลมาตรการ QE สหรัฐซึ่งจะทราบผลในช่วง 1-2 วันนี้ รวมถึงประเด็นความขัดแย้งทางการเมือง
“แรงขายที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นของต่างชาติ เพราะสังเกตจากช่วงที่ดัชนีปรับขึ้นก็มาจากหุ้นบิ๊กแคปในช่วงเช้า พอช่วงบ่ายก็ปรับลงแรงจึงคาดเดาได้ว่าเป็นฝีมือของต่างชาติแน่นอน หรืออีกนัยหนึ่งอาจจะเป็นนักลงทุนสถาบัน แต่เชื่อว่ามีควาเป็นไปได้น้อยกว่าต่างชาติ
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นวันพรุ่งนี้(พุธที่ 19 มิ.ย.56) คาดว่าจะยังผันผวนต่อเนื่อง โดยแนะขึ้นขายลงซื้อ ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ควรใช้ในช่วงที่ดัชนีตลาดหุ้นเหวี่ยงตัวแรงในระยะสั้น ส่วนหุ้นที่ควรจะเข้าซื้อในช่วงที่ดัชนีเหวี่ยงตัวแรง แนะนำกลุ่มบิ๊กแคป โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม คือผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด
ทั้งนี้ ประเมินแนวรับแรกอยู่ที่ 1,430 จุด แนวรับถัดไป 1,420-1,400 จุด ส่วนแนวต้านอยู่บริเวณ 1,450 จุด แนวต้านถัดไปอยู่ที่ 1,486 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1.INTUCH-บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 79 บาท ลดง 2.75 บาท คิดเป็นลดลง 3.36%
2.KBANK-ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 187.50 บาท ลดลง 6.50 บาท คิดเป็นลดลง 3.35%
3.JAS-บริษัทจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 8.05 บาท ลดลง 10 สตางค์ คิดเป็นลดลง 1.23%
4.ADVANC-บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 252 บาท ลดลง 5 บาท คิดเป็นลดลง 1.95%
5.PTT-บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 321 บาท ลดลง 8 บาท คิดเป็นลดลง 2.43%
ที่มาจาก : settrade.com, กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 550 | 50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 17:09 น. | (ครั้งที่ 14) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวหุ้น, ข่าวเศรษฐกิจ