สรุปสภาวะตลาดทองคำ วิเคราะห์แนวโน้ม ราคาทองพรุ่งนี้(พุธ 19-6-56) โดย YLG
โดยสรุปสภาวะตลาดวันอังคารที่ 18 มิถุนายน 2556
ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,377.28-1,385.55 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM13 อยู่ที่ 20,210 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 10 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,200 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVM13 อยู่ที่ 700 บาท โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 700 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.40 น.ของวันที่ 18/06/13)
แนวโน้มราคาทองคำวันพรุ่งนี้ พุธที่ 19 มิถุนายน 2556
ภาวการณ์ชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนยังคงกดดันทิศทางราคาทองคำ เนื่องจากจีนเป็นประเทศที่มีการใช้ทองคำเป็นอับดับสองของโลกรองจากอินเดีย ขณะที่บาร์เคลย์สปรับลดคาดการณ์อัตราการเติบโตของเศษรฐกิจจีนว่าจะชะลอตัวลงสู่ระดับที่ค่อนข้างต่ำ และคาดว่ารัฐบาลชุดใหม่จะยังไม่ดำเนินการใดๆแม้ว่าเศรษฐกิจชะลอตัวลงอย่างมากก็ตาม โดยประเมินว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในปี 2556 และ 2557 ของจีนลงอยู่ที่ระดับ 7.4% จากระดับ 7.9% ในปีนี้ และ 8.1% ในปี 2557 ซึ่งการเป็นการเพิ่มแรงกดดันในตลาดทองคำ โดยการประเมินดังกล่าวสอดคล้องกับก่อนหน้านี้ที่ธนาคารโลกคาดการณ์การเศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตามตลาดทองคำได้รับปัจจัยบวกจากประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เปิดเผย ธนาคารกลางอยู่ระหว่างพิจารณาเรื่องการใช้นโยบายการเงินแบบพิเศษเพิ่มเติม และจะใช้เมื่อสถานการณ์เหมาะสม ส่งผลให้ความวิตกกังวลต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในยุโรปผ่อนคลายลง ขณะที่นักลงทุนรอดูผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันคืนวันพุธนี้ ทั้งนี้นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดจะไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินในครั้งนี้ ซึ่งนำแนะนักลงทุนยังเน้นการลงทุนในระยะสั้นและทำกำไรจากการแกว่งตัวของราคาทองคำ บริเวณ 1,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นแนวต้านหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือโซนดังกล่าวได้มีโอกาสที่ราคาจะขึ้นทดสอบแนวต้านด้านบน แต่หากไม่สามารถยืนได้ราคาก็มีโอกาสอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับสำคัญบริเวณ 1,353 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำนักลงทุนสามารถลงทุนระยะสั้นโดยเข้าซื้อหากราคาย่อตัวไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,365 หรือ 1,353 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยไม่แนะนำให้เข้าซื้อทั้งหมดบริเวณแนวรับใดแนวรับหนึ่ง ควรเหลือเงินทุนเพื่อซื้อเฉลี่ยหากราคาหลุดแนวรับแรกซึ่งราคาอาจจะปรับตัวลงไปบริเวณแนวรับถัดไป และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นบริเวณแนวต้าน 1,393 หรือ 1,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจเห็นการย่อตัวของราคาทองคำอีกครั้ง เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่าการลงทุนยังเน้นการลงทุนระยะสั้น เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้บ้าง ก็ยังคงมีแรงขายทองคำออกมาเช่นกัน
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,365 (19,870บาท) 1,353 (19,700บาท) 1,340 (19,510บาท)
แนวต้าน 1,393 (20,280บาท) 1,400 (20,390บาท) 1,407 (20,490บาท)
GOLD FUTURES (GFM13)
แนวรับ 1,365 (20,030บาท) 1,353 (19,860บาท) 1,340 (19,660บาท)
แนวต้าน 1,393 (20,440บาท) 1,400 (20,540บาท) 1,407 (20,650บาท)
SILVER FUTURES (SVM13)
แนวรับ 21.40 (682บาท) 21.05 (672บาท) 20.75 (662บาท)
แนวต้าน 22.20 (707บาท) 22.65 (721บาท) 22.95 (730บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888 หรือwww.ylgbullion.com
วิเคราะห์ข้อมูลโดย : วายแอลจี YLG
ที่มาจาก : ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 550 | 50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 17:09 น. | (ครั้งที่ 14) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง