ราคาทองคำวันนี้(8) ขึ้น 200 บาท ตามต่างประเทศ ส่วนแนวโน้มยังปรับลงต่อ
โดยภาพรวมราคาทองคำยังมีแนวโน้มอ่อนตัว โดยปรับตัวลงติดต่อกันมาหลายวัน หลังจากที่บรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ออกมาประสานเสียงถึงความเป็นไปได้ที่เฟดจะเริ่มชะลอ QE ภายในปีนี้ ส่งผลให้นักลงทุนต่างประเมินว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ กำลังจะเริ่มลดปริมาณการผ่อนคลายทางการเงินในอีกไม่ช้า
ซึ่งเมื่อคืนนี้(7 ส.ค.)สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกไป 2.8 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,285.3 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากสัญญาทองคำร่วงลงติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์
ส่วนราคาซื้อขายทองคำในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวานนี้ ทองคำแท่ง ขายออกบาทละ 19,050 บาท และรับซื้อคืนบาทละ 18,950 บาท ทองรูปพรรณ ขายออกบาทละ 19,450 บาท และรับซื้อคืนบาทละ 18,677.12 บาท
รายงานจากกองทุน SPDR ได้ลดปริมาณการถือครองทองคำลง 4.51 ตัน ส่งผลให้ปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำ 910.53 ตัน
ส่วนการอ่อนตัวอย่างต่อเนื่องของค่าเงินบาทจากประเด็นทางการเมือง ยังเป็นปัจจัยหนุนราคาทองในประเทศ ซึ่งในระยะสั้นเงินบาทจึงอาจเริ่มดีดตัวแข็งค่าขึ้น หลังจากอ่อนค่าลงติดต่อกันหลายวัน โดยการชุมนุมเมื่อวานนี้ไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรงใดๆ เกิดขึ้น
วันนี้มีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่สำคัญคือจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ โดยหากออกมาดีกว่าคาดก็จะเป็นปัจจัยกดดันให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงต่อ และการประชุมของของธนาคารกลางญี่ปุ่น หรือ BOJ คาดว่ายังคงไม่มีนโยบายใหม่ๆ มากระตุ้นหรือส่งผลโดยตรงต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองมากนัก
โดยแนวโน้มราคาทองคำวันนี้(8) บริษัท ฮั่งเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ จำกัด วิเคราะห์เอาไว้ว่า ภาพการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในทางเทคนิค หลังจากวานนี้อ่อนตัวลงไปเคลื่อนไหวต่ำกว่าแนวรับบริเวณ 1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในช่วงสั้นๆ ก่อนที่จะเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาจนราคาดีดตัวกลับขึ้นมาปิดในแดนบวก แต่ภาพรวมการเคลื่อนไหวทางเทคนิคยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลงต่อ หากราคาอ่อนตัวลงไปเคลื่อนไหวต่ำกว่า 1,270 ดอลลาร์ต่อออนซ์ คาดว่าจะมีแรงขายกลับออกมามากจนราคาทองปรับตัวลงสู่แนวรับบริเวณ 1,250 และ 1,220 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ โดยมีแนวต้านของวันอยู่ที่บริเวณ 1,295-1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งสามารถเลือกเปิดสถานะขายเก็งกำไร โดยมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่บริเวณ 1,310 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้าน นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัดและผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ แนะว่า ทางเทคนิคราคาทองได้กรอบเป้าหมายที่ให้ไว้ก่อนหน้าคือ 1,275 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำปิดสถานะทำกำไร ระหว่างวันคาดว่าจะมีการ Rebound สั้น ๆ ซึ่งอยากให้รอดูทิศทางทั้งราคาทองคำในตลาดโลกและค่าเงินบาทอีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลการวิเคราะห์จาก :
บริษัท ฮั่งเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ จำกัด
นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัดและผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ
เรียบเรียงโดย : ทองคำราคา.com
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 550 | 50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 17:09 น. | (ครั้งที่ 14) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง