ทองโลกทะยานทะลุ $1,300 คาดเฟดไม่ลด QE เศรษฐกิจเสียหายจากShutdown ในประเทศบาทยังแข็งกดดันทอง
โดยราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นกว่า 3% สู่ระดับสูงสุดบริเวณ 1,324 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังสภาคองเกรสสหรัฐผ่านร่างกฎหมายการคลังชั่วคราว เพื่อยุติการปิดหน่วยงานรัฐบาลกลางและปรับเพิ่มเพดานหนี้
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนมองว่า แม้ว่าสภาคองเกรสสหรัฐฯจะผ่านกฎหมายเพิ่มเพดานหนี้และยุติปัญหาการปิดหน่วยงานของรัฐบาลกลางได้ แต่ก็เป็นเพียงการยื้อเวลาต่อไปชั่วคราวเพียงแค่ 4 เดือนเท่านั้น แต่ปัญหายังคงอยู่ รวมทั้งข้อตกลงดังกล่าวนั้นยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาประเด็นที่ทั้งสองพรรคยังขัดแย้งกันอยู่ได้ในหลายประเด็น และท้ายที่สุด จะทำให้เกิดวิกฤตการคลังขึ้นมาอีกครั้งในอีกไม่กี่เดือน
ขณะเดียวกันผลจากการปิดหน่วยงานของรัฐบาลกลางและการแก้ไขปัญหาเพดานหนี้ที่ล่าช้า ได้สร้างความเสียหายให้เศรษฐกิจสหรัฐแล้ว รวมถึงบั่นทอนความเชื่อมั่นทางธุรกิจด้วย
ด้วยเหตุนี้ทำให้นักลงทุนหันไปจับตาการตัดสินใจเรื่องการลดวงเงินซื้อพันธบัตรของธนาคารกลางสหรัฐ ว่าในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ(FOMC) ที่เหลืออีก 2 ครั้งในปีนี้ มีแนวโน้มว่าธนาคารกลางสหรัฐ จะยังไม่มีการลดปริมาณการผ่อนคลายทางการเงินลงในช่วงที่เหลือของปี และจึงเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ
ประกอบกับคำกล่าวของ ประธานเฟด สาขาดัลลัส เปิดเผยว่า ความไม่ลงรอยกันด้านการคลังได้ส่งผลกระทบต่อการหารือเรื่องการปรับลดวงเงิน การซื้อพันธบัตรรายเดือนของเฟด อีกทั้งยังมีความเห็นสนับสนุนประเด็นนี้จาก ประธานเฟดสาขาชิคาโก ว่า เฟดเองยังคงไม่สามารถที่จะเริ่มลดการอัดฉีดเม็ดเงิน8.5 หมื่นล้านได้ จากการที่หน่วยงานรัฐบาลกลางได้ถูกปิดลงบางส่วนส่งผลต่อข้อมูลทางด้านเศรษฐกิจ
ส่วนในประเทศทิศทางของราคาทองยังคงต้องติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจจากต่างประเทศที่จะส่งผลต่อทองคำในตลาดโลก รวมทั้งค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้ทองในประเทศปรับขึ้นได้ไม่มาก โดยหลังจากเมื่อวานนี้ภาพรวมปรับขึ้นมา 250 บาทเช้านี้เปิดตลาดมาปรับขึ้นอีก 150 บาท ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่าเป็นการปรับขึ้นในระยะสั้นเท่านั้น จึงระวังแรงเทขายที่จะมีออกมาทำให้ราคาปรับลดลงได้อีก
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า ภาพการเคลื่อนไหวทางเทคนิคของราคาทองยังมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องจากกลางสัปดาห์ หากราคาทองกลับขึ้นไปยืนเหนือแนวต้าน 1,330 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้ ก็จะเป็นการยืนยันสัญญาณซื้อและคาดว่าราคาทองจะกลับขึ้นไปเคลื่อนไหวที่แนวต้านบริเวณ 1,350 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้ต่อไป หากในระหว่างวันมีการปรับฐานจากแรงขายทำกำไรคาดว่าที่แนวรับบริเวณ 1,300-1,310 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังเป็นระดับที่คาดว่าราคาทองจะดีดตัวกลับขึ้นมาได้อีกครั้ง.
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,050.00 | 44,150.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,251.48 | 44,650.00 |
วันนี้ 450 | -50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 10:35 น. | (ครั้งที่ 8) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง