ทองทะยานขึ้นมาก จึงถูกเทขายทำกำไร ในประเทศวันนี้ขึ้น 350 บาท ระยะสั้นยังขาขึ้น
โดยเมื่อวันอังคาร(22)ที่ผ่านมา ราคาทองคำตลาดโลกดีดตัวสูงขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานของสหรัฐฯ รายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนกันยายน ออกมาอย่างผิดหวัง โดยต่ำกว่าที่คาดการณ์อย่างไว้อย่างมาก โดยรายงานพบว่าปรับตัวเพิ่มขึ้น 148,000 ตำแหน่ง น้อยกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 180,000 ตำแหน่ง และลดลงต่ำกว่าเดือนที่แล้วมากถึง 23,000 ตำแหน่ง จากตัวเลขดังกล่าวส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนตัวลงทันที ส่งผลให้นักลงทุนหันกลับเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย และทำให้ราคาทองคำพุ่งทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยดีดตัวขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,343 ดออลาร์ต่อออนซ์โดยประมาณ
และจากรายงานตัวเลขเศรษฐกิจดังกล่าวข้างต้นที่ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดประเมิน ส่งผลให้นักลงทุนต่างคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) จะยังคงไม่ปรับลดมาตรการนโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) ภายในเร็ววันนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำในระยะสั้น
รายงานจากกองทุน SPDR Gold Trust ว่าเมื่อวันอังคารมีการเพิ่มปริมาณการถือครองทองคำเพิ่มขึ้น 6.60 ตัน ส่งผลให้ปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำรวม 878.32 ตัน
ส่วนเมื่อคืนที่ผ่านมาทองคำปิดปรับตัวลง จากแรงเทขายทำกำไรหลังจากที่ทองคำนั้นทะยานขึ้นมามาก ในขณะเดียวกันทองคำได้รับแรงกดดันจาก จีนประเทศผู้บริโภคทองคำอันดันต้นของโลกที่ส่งสัญญาณลดการนำเข้าซื้อทองคำแท่งและจิวเวลรี่ รวมทั้งเงินดอลลาร์เริ่มกลับมาแข็งค่าขึ้น
และสำหรับรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญวันนี้นักลงทุนจับตาการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญ อย่างจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ รวมทั้ง ดัชนี PMI ภาคการผลิต และยอดขายบ้านใหม่
สำหรับทองคำในประเทศหลังจากเมื่อวานนี้ตลาดปิดทำการและกลับมาเปิดตลาดวันนี้พุ่งขึ้น 350 บาท ทำใหัราคาขายทองรูปพรรณทะลุ 20,000 บาทแล้ว ซึ่งปัจจัยหนุนมาจากทองตลาดโลกปรับตัวขึ้นมากและเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลง โดยเปิดตลาดทองคำวันนี้(24) ราคาทองคำแท่งขายออกบาทละ 19,750 บาท และทองรูปพรรณ ขายออกที่บาทละ 20,150 บาท
ด้านบริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด ระบุว่า ราคาทองดีดตัวขึ้นในการซื้อขายช่วงค่ำของวันอังคาร โดยราคากลับขึ้นไปเคลื่อนไหวเข้าใกล้แนวต้านบริเวณ 1,350 ดอลลาร์ ก่อนที่จะเริ่มมีแรงขายสลับออกมาในการซื้อขายช่วงกลางวันของวันพุธ การคาดการณ์แนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐเป็นปัจจัยที่ทำให้ราคาทองปรับตัวขึ้นได้ต่อ
ส่วนภาพเทคนิคของราคาทองยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นต่อ หากราคากลับอ่อนตัวลงเข้าใกล้แนวรับบริเวณ 1,315-1,320 ดอลลาร์ต่อออนซ์ คาดว่าจะเป็นจุดดีดตัวกลับของราคาทอง และเป็นจุดที่สามารถกลับเข้าซื้อเก็งกำไรในระยะสั้น โดยมีแนวต้านของวันอยู่ที่บริเวณ 1,345-1,350 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองผ่านขึ้นไปยืนเหนือแนวต้านดังกล่าวได้ ภาพการฟื้นตัวทางเทคนิคของราคาทองก็จะมีความต่อเนื่องมากขึ้น.
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 550 | 50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 17:09 น. | (ครั้งที่ 14) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง