ทองแกว่งขึ้นลงตามรายงานเศรษฐกิจสหรัฐ คืนนี้หากเฟดคง QE ตามคาด ระวังแรงเทขาย และอาจผันผวน
โดยเมื่อวานนี้ราคาทองคำปรับตัวลดลงเล็กน้อย หลังจากการปรับแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก อีกทั้งยังมีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ออกมาอ่อนแอ
โดยรายงานเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนกันยายน ลดลง 0.1% จากเดือนก่อนหน้า ขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิต(PPI) เดือนกันยายน ลดลงตัวเลขเดียวกัน 0.1% ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเมษายน ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคก็ลดลงเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน โดยร่วงลงอย่างหนักสู่ระดับ 71.2 ในเดือนนี้ จากระดับ 80.2 ในเดือนที่แล้ว ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์ประเมินว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ จะลดลงอีกในเดือนตุลาคม
ซึ่งข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่ประกาศออกมาแสดงความอ่อนแอนั้นเป็นผลจากแรงกระทบที่ หน่วยงานรัฐบาลกลางบางแห่งหยุดทำการชั่วคราว ก่อนทำให้ราคาทองคำทะยานตัวขึ้นในระยะสั้น แต่ก็ไม่ได้แสดงถึงว่าจะยืนในระดับสูงนี้ได้อย่างยาวนาน
ซึ่งก็เป็นอีกเหตุผลให้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะยังคงไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายทางเงินในเวลานี้ โดยนักลงทุนส่วนใหญ่เฝ้าจับตาดูท่าทีของเฟดที่จะรายงานผลการประชุมในเวลาประมาณ 01.00 น.(ตีหนึ่ง) คืนนี้ตามเวลาไทย ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการเงินนี้หรือไม่
ส่วนค่ำวันนี้ มีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจอย่างตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนทั่วประเทศของสหรัฐประจำเดือนตุลาคม โดยนักวิเคราะห์คาดว่าจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 150,000 ตำแหน่ง หลังจากเดือนที่แล้วเพิ่มขึ้น 166,000 ตำแหน่ง
ด้านราคาทองคำในประเทศ วันนี้ทองคำได้รับผลกระทบจากราคาทองตลาดโลกที่ปรับตัวลงจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์และรายงานเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ออกมาอ่อนแอ เป็นผลให้เปิดตลาดทองคำเช้านี้(ครั้งที่ 1) ทองลงไป 100 บาท แต่อย่างไรก็ตามก็มีการประกาศราคาทองครั้งที่ 2 ตามมาโดยปรับเพิ่มขึ้นอีก 50 บาท ทำให้ ณ. ขณะนี้
ทองคำแท่ง รับซื้อคืน บาทละ 19,700 บาท ขายออก บาทละ 19,800 บาท
ทองรูปพรรณ รับซื้อคืน บาทละ 19,419.96 บาท ขายออก บาทละ 20,200 บาท
และสำหรับภาพเทคนิคของราคาทองคำ บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า ราคาทองคำเริ่มมีสัญญาณการปรับฐานในระยะสั้น โดยคาดว่าอาจเริ่มมีแรงขายทำกำไรกลับออกมา หากราคาทองดีดตัวขึ้นเข้าใกล้แนวต้าน บริเวณ 1,355-1,360 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ออกมาตามที่ตลาดประเมิน โดยคาดว่าราคาทองอาจเริ่มอ่อนตัวลงสู่แนวรับบริเวณ 1,340 และ 1,325-1,330 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งยังเป็นระดับแนวรับที่สามารถกลับเข้าซื้อเก็งกำไร.
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 550 | 50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 17:09 น. | (ครั้งที่ 14) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง